รัฐ-เอกชน ขนทัพผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่อยอดเชิงพาณิชย์ ร่วม TRIUP FAIR 2023

รัฐ-เอกชน ขนทัพผลงานวิจัยและนวัตกรรมต่อยอดเชิงพาณิชย์ ผ่านงาน TRIUP FAIR 2023

ศ.กิตติคุณ นพ.สุทธิพร จิตต์มิตรภาพ ประธานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์และความเคลื่อนไหวของบริบทต่าง ๆ ที่ดำเนินไปอย่างรวดเร็วทั้งในระดับประเทศ และระดับโลก เล็งเห็นว่าทุกภาคส่วนของไทยต้องให้ความสำคัญกับการนำวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของประเทศให้มากยิ่งขึ้น ที่ผ่านมาประเทศไทยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 (TRIUP Act) ซึ่ง พ.ร.บ. ฉบับนี้เป็นหนึ่งในกฎหมายเพื่อการปฏิรูปเศรษฐกิจของประเทศ ที่ช่วยปลดล็อกความเป็นเจ้าของผลงานวิจัยและนวัตกรรม เร่งส่งเสริมการใช้นวัตกรรมของประเทศ โดยคาดหวังให้ทุกภาคส่วนเห็นความสำคัญของ พ.ร.บ. ฉบับนี้

รองศาสตราจารย์ ดร.ปัทมาวดี โพชนุกูล ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) กล่าวว่า สกสว. ในฐานะหน่วยงานที่มีหน้าที่ขับเคลื่อนพระราชบัญญัติส่งเสริมการใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2564 และเป็นหน่วยงานที่ส่งเสริมให้เกิดนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์เพื่อการพัฒนาในมิติต่าง ๆ เห็นว่าการจะนำผลงานวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ให้เกิดผลกระทบสูงต่อประเทศนั้น ต้องอาศัยพลังและความร่วมมือจากภาคีทุกภาคส่วน โดยปีนี้จะเริ่มจากภาคเศรษฐกิจ

ดังนั้น สกสว. พร้อมด้วยหน่วยงานพันธมิตร ได้แก่ หน่วยบริหารและจัดการทุนวิจัย (PMU) มหาวิทยาลัย สถาบันวิจัย ภาคเอกชนนำโดยสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย หน่วยงานภาครัฐที่กำกับดูแลกลไกหนุนเสริมการพัฒนาภาคธุรกิจ รวมถึงหน่วยงานภาคการเงิน การลงทุน จึงได้ผนึกกำลังกันจัดงาน “มหกรรมส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากงานวิจัยและนวัตกรรม ประจำปี 2566 (TRIUP FAIR 2023)” ระหว่างวันที่ 18-19 กรกฎาคม 2566 ณ รอยัลพารากอนฮอลล์ 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน ภายใต้แนวคิด “Journey to Impact : เส้นทางจากงานวิจัยและนวัตกรรมสู่การยกระดับเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ”

Advertisement

ในการจัดงานครั้งนี้มีจุดมุ่งเน้นสำคัญ คือ การเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันวางเป้าหมายร่วมในการผลักดันผลงานวิจัยและนวัตกรรมให้ไปสู่การสร้างผลกระทบที่เป็นรูปธรรม ภายใต้ 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ การแพทย์และสุขภาพ เกษตรและอาหารมูลค่าสูง และ Net Zero Emission โดยมีเป้าหมายการทำงานร่วมกันเป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อแสดงให้เห็นว่าเส้นทางการไปสู่การใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ที่สามารถสร้างผลกระทบทางเศรษฐกิจของผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านต่าง ๆ ให้เป็นรูปธรรมนั้น จะต้องมีกระบวนการ และมีหน่วยงานที่ต้องเข้ามาหนุนเสริมในแต่ละขั้นตอนอย่างไร และภาพการทำงานใน 3 ประเด็นหลักนี้จะนำไปสู่การขยายโมเดลการทำงานในประเด็นสำคัญอื่น ๆ ของประเทศต่อไป

ขณะที่ นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ส.อ.ท. ซึ่งเป็นตัวแทนของภาคอุตสาหกรรมได้ร่วมเป็นพันธมิตรหลักในการจัดงานครั้งนี้ โดยมองว่างาน TRIUP Fair 2023 จะเป็นโอกาสให้ผู้ประกอบการและภาคเอกชนได้พบกับผลงานวิจัยและนวัตกรรมพร้อมใช้ได้จริง กว่า 300 ผลงาน ในส่วนของผู้ประกอบการเครือข่าย ส.อ.ท. ได้ให้ความสนใจและมาร่วมแสดงผลงานวิจัยและนวัตกรรมกว่า 70 บริษัท ซึ่งเชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้จะช่วยกระตุ้นและส่งเสริมให้เกิดการยกระดับศักยภาพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมไทยจากการประยุกต์ใช้ผลงานวิจัยต่อไป

ด้าน น.ส.กอบสุข เอี่ยมสุรีย์ รองประธานคณะกรรมการส่งเสริมนวัตกรรมและวิจัย หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวในฐานะภาคเอกชนที่มีสมาชิกกลุ่ม Startup และ SMEs อยู่ทั่วประเทศว่า การจัดงาน TRIUP Fair 2023 ครั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ภายใต้นโยบาย ‘Connect the Dots’ ได้มีส่วนร่วมประชาสัมพันธ์ไปยังสมาชิกที่นักธุรกิจรุ่นใหม่ (Young Entrepreneur chamber of commerce; YEC) และ ผู้ประกอบการในเครือข่ายเพื่อเข้าร่วมงานและเข้าร่วมกิจกรรมการเจรจาธุรกิจ (Business matching) โดยมองว่าผลงานวิจัยและนวัตกรรมจะช่วยสร้างความเข้มแข็งและการเติบโตด้านนวัตกรรมให้กับผู้ประกอบการได้จริง

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image