เสิร์ฟถึงไทย ‘ไมเนอร์’ ส่งแบรนด์ ‘ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช ชิงเค้กอาหารจีน 6 พันล้าน
ยังคงเดินหน้าขยายพอร์ตโฟลิโอรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง สำหรับบริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ยักษ์ใหญ่วงการธุรกิจร้านอาหารแบรนด์ดัง
ล่าสุด โดดร่วมชิงเค้กตลาดร้านอาหารจีนในประเทศไทย มีมูลค่ากว่า 5,000-6,000 ล้านบาท เปิดตัวร้าน “ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า” ร้านอาหารจีนสไตล์ฉงชิ่ง-เสฉวน จากประเทศจีนและสิงคโปร์ มีสาขาอยู่ 150 สาขา มาปักหมุดสาขาแรกในประเทศไทย ที่ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ พร้อมเปิดวันแรก 6 กรกฎาคม
ทำไม “ไมเนอร์ฟู้ด” ถึงลงสนามแข่งขันตลาดนี้ “ธันยเชษฐ์ เอกเวชวิท” ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ บมจ.เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป เล่าถึงภาพรวมตลาดร้านอาหารจีนในประเทศไทยคึกคักมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา และมีหลากหลายประเภท หลากหลายเทรนด์ ไม่ว่าสไตล์เสฉวน หม่าล่า ชาบู ปิ้งย่าง นอกจากอาหารจีนกวางตุ้งแล้ว และเเทรนด์อาหารสไตล์เสฉวน หม่าล่ายังเป็นที่นิยม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่น
จึงเป็นที่มาไมเนอร์นำแบรนด์ “ริเวอร์ไซด์ กริลล์ ฟิช แอนด์ หม่าล่า” ซึ่งเป็นแบรนด์ในเครือไมเนอร์อยู่แล้ว มาทำตลาดที่ไทยเป็นครั้งแรก เจาะกลุ่มกำลังซื้อระดับกลาง-สูง ทั้งชาวไทยและต่างชาติ เป็นวัยรุ่นและครอบครัว
“ปัจจุบันธุรกิจร้านอาหารจีนในไทยมีมูลค่าตลาด 5,000-6,000 ล้านบาท มีแนวโน้มการเติบโตดับเบิลดิจิตต่อปี และได้รับความนิยม เป็นเทรนด์ที่มาแรง ซึ่งไมเนอร์เล็งเห็นถึงโอกาสการทำตลาด คิดว่าเราไม่ได้มาช้าและไม่จำเป็นว่าเราต้องมาเป็นเจ้าแรกๆ เพราะตลาดยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก แม้การแข่งขันสูง แต่ส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการรายเล็กมากกว่าเป็นแบรนด์ใหญ่และเราก็เปิดในจังหวะนี้ถือว่าเหมาะสม เพราะกำลังซื้อในตลาดเริ่มกลับมาแล้วหลังโควิด ด้วยศักยภาพของไมเนอร์ที่โอเปอเรตร้านอาหารอยู่ 24 ประเทศทั่วโลก มั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับจากลูกค้าและทำให้เราเติบโตในตลาดนี้ได้” นายธันยเชษฐ์กล่าวย้ำ
พร้อมไล่เรียงแผนว่า ตั้งเป้าใน 3 ปี จะมีสาขามากกว่า 10 สาขา หรือเปิดปีละ 1-2 สาขา ใช้เงินลงทุนต่อสาขาอยู่ที่ 10-12 ล้านบาท ซึ่งในปี 2566 ตั้งเป้าเปิด 4 สาขา โดยในเดือนกรกฎาคมนี้เปิด 2 สาขา สาขาแรกเปิดวันที่ 6 กรกฎาคม ชั้น 6 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ และเซ็นทรัลพระราม9 ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคม จากนั้นปลายปีนี้จะเปิด 2 สาขา
“การขยายสาขาจะดูผลตอบรับจากลูกค้าก่อน มีแผนเปิดในกรุงเทพและต่างจังหวัด ซึ่งระยะแรกนี้เราเปิดโซนใจกลางเมืองก่อน ต่อไปจะไปในทำเลที่ยังไม่เคยไป เช่น ปิ่นเกล้า ห้วยขวาง และต่างจังหวัด ที่มีคนจีนอาศัยอยู่จำนวนมาก รวมถึงคนไทยเชื้อสายจีนและนักท่องเที่ยวด้วย เช่น พัทยา ภูเก็ต เชียงใหม่ และไม่จำเป็นว่าเราจะต้อเปิดในศูนย์การค้าอย่างเดียว อาจจะมีรูปแบบสแตนอะโลนก็ได้” นายธันยเชษฐ์กล่าว
สำหรับสาขาแรกในเซ็นทรัลเวิลด์นั้น “ธันยเชษฐ์” ระบุมีเมนูให้เลือกกว่า 40 เมนู โดยมีเมนูซิกเนเจอร์ อาทิ ปลาย่างกระทะร้อนสไตล์ฉงชิ่ง เริ่มต้น 699 บาท สามารถเลือกชนิดของเนื้อปลาได้มากถึง 4 ชนิด อาทิ ปลาชิงเจียง ปลาเก๋า ปลากระพง และปลาปาทีน มาพร้อมกับซอสสูตรลับที่เลือกได้ตามความชอบที่มีรสชาติแตกต่างกันถึง 5 สไตล์ ได้แก่ ซอสหม่าล่า ซึ่งเป็นซอสที่ได้รับความนิยมสูงสุด รวมไปถึงซอสสูตรอื่น ๆ อย่างซอสสูตรริเวอร์ไซด์ ซอสพริกหอม ซอสเต้าซี่ และซอสผักดองสูตรพิเศษ
ต่อมาหม่าล่าผัดที่ลูกค้าสามารถทำเองได้(D.I.Y.) ตั้งแต่ชนิดและปริมาณของวัตถุดิบ ไปจนถึงระดับความเผ็ด เริ่มต้น 200 บาท
นอกจากยังมีเมนูแนะนำอาหารจีนต้นตำรับแท้ เช่น ข้าวโพดคลุกไข่เค็ม ไก่ผัดพริกแห้งสูตรริเวอร์ไซดื ไก่แช่น้ำมันพริกสไตล์เสฉวน ข้าวผัดแฮมลันซ์เชี่ยนสูตรริเวอร์ไซด์ คัสตาร์ดมะพร้าวลาวา เป็นต้น
รวมถึงมีแบบเป็นเซ็ต 1 คน เป็นคู่ และครอบครัว เริ่มต้น 290-888 บาทต่อเซ็ต และตลอดเดือนกรกฎาคมนี้ ได้จัดแคมเปญลดราคาเมนูอาหาร 10%
