เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,508.87 จุด เคลื่อนไหวในแดนลบที่ระดับ 1,496.36 จุด ปรับลดลง 12.51 จุด หรือ 0.83% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,505.88 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,495.95 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 10,519.25 ล้านบาทโดยนายรักพงศ์ ไชยศุภรากุล ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายวิจัยและกลยุทธ์ บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีเปิดซื้อขายไซด์เวย์และปรับลดลง หลังจากเมื่อวานนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับลดลง (อ่อนแอกว่าที่เราคาด) เพราะมีแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มที่ดีดตัวขึ้น (รีบาวด์) แรงตั้งแต่ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา อาทิ กลุ่มธนาคารฯ กลุ่มเชื่อมโยงนโยบายภาครัฐและกลุ่มทุนใหญ่ เป็นต้น ขณะที่ปัจจัยโดยรวมวันนี้เป็นกลางคือ ตลาดหุ้นสหรัฐปรับลดลงเล็กน้อย สะท้อนแรงกดดันจากบอนด์ยิลด์สหรัฐที่ปรับขึ้นค่อนข้างแรง หลังจากรายงานการประชุมฑนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) หรือ FOMC meeting minutes จากวันที่ 14 มิถุนายน ที่ผ่านมา ชี้ว่ากรรมการเฟดส่วนใหญ่เตรียมปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อในช่วงครึ่งหลังของปี 2566
นายรักพงศ์ กล่าวว่า ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเช้านี้เปิดลบเช่นกัน รับแรงกดดันจากบอนด์ยิลด์สหรัฐ รวมทั้งประเด็นข่าวจีนจำกัดการส่งออกแร่หายาก อาทิ gallium และ germanium ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการผลิตชิพประสิทธิภาพสูง ราคาน้ำมันดิบ WTi รีบาวด์ต่อ 1.11% ตอบรับข่าวซาอุฯ และรัสเซียประกาศลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติม เมื่อ 2 วันก่อนหน้านี้ น่าจะทำให้หุ้นกลุ่มพลังงานยัง outperform ตลาดหุ้นโดยรวมได้ต่อ ส่วนในคืนวันนี้ นักลงทุนควรติดตามข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในภาคแรงงานหลายตัว ซึ่งจะมีนัยสำคัญต่อทิศทางตลาดการเงินสหรัฐต่อไป
