25 ปี ‘สตาร์บัคส์ไทย’ สปีดขยายสาขาเท่าตัว ตั้งเป้าครบ 800 แห่งในปี’73
เมื่อวันที่ 6 กรกฎาคม นางเนตรนภา ศรีสมัย กรรมการผู้จัดการ สตาร์บัคส์ ประเทศไทย เปิดเผยว่า นับจากเดือนกรกฎาคม 2541-2566 เป็นเวลา 25 ปีแล้ว ที่สตาร์บัคส์ทำตลาดในประเทศไทยมีสาขาทั้งหมด 465 สาขาทั่วประเทศ มีพาร์ตเนอร์ (พนักงาน) กว่า 4,300 คน และให้บริการลูกค้ามากกว่า 800,000 คนในทุกสัปดาห์ ซึ่งบริษัทยังคงเดินหน้าลงทุนขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง
เนื่องจากมั่นใจในเศรษฐกิจในประเทศยังขยายตัวหลังโควิดคลี่คลายและตลาดกาแฟยังมีโอกาสเติบโต แม้จะมีผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดเข้ามาจำนวนมาก แต่มองว่าเป็นทางเลือกให้กับผผู้บริโภคมากกว่า
นางเนตรนภากล่าวว่า โดยตั้งเป้าจะเปิด 30 สาขาต่อปี และให้ครบ 800 สาขา พร้อมกับร้านค้าเพื่อชุมชน 8 สาขา ภายในปี 2573 จากปัจจุบันมีทั้งหมด 465 สาขาทั่วประเทศและร้านค้าชุมชน 2 สาขา ซึ่งสาขาแรกอยู่หลังสวนและสาขาที่ 2 ที่ไอคอนสยามเป็นร้านใหญ่สุดในไทย อีกทั้งยังเป็นสาขามีศักยภาพสูงมีลูกค้าชาวไทยและต่างชาติมาใช้บริการในปริมาณมาก และเชื่อว่าครึ่งปีหลังจะคึกคักมากขึ้นจากนักท่องเที่ยวจีนที่จะทยอยเข้ามา
“ตลาดในไทยยังเป็นตลาดที่ดีในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งหลังโควิดทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็ว เราก็ต้องปรับตัว ปรับแผนธุรกิจ และการบริการให้สอดรับกับไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป และต้นทุนที่เพิ่มขึ้นขณะที่กำลังซื้อปีนี้ผ่านมา 6 เดือนก็ถือว่าเริ่มดีขึ้นและจากแผนขยายสาขาถึงสิ้นปีนี้คาดจะมีสาขาทั้งหมด 484 สาขา โดยขยายในทุกทำเลในกรุงเทพและต่างจังหวัด เน้นไดร์ฟทรูเป็นหลักจากปัจจุบันมี 50 สาขา เพราะเห็นโอกาสของตลาด” นางเนตรนภากล่าว
นางเนตรนภากล่าวว่า สำหรับร้านกาแฟสตาร์บัคส์เพื่อชุมชน เป็นการแบ่งปันรายได้ โดย 10 บาท จากการจำหน่ายกาแฟทุกแก้วจะได้รับการแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกันให้แก่ 2 องค์กรที่ไม่แสวงหาผลกำไร ได้แก่ มูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน และมูลนิธิสโกลารส์ ออฟ ซัสทีแนนซ์ และนับตั้งแต่เปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนแห่งแรกที่หลังสวนปี 2556 ได้มอบเงินสนับสนุนไปแล้วกว่า 17 ล้านบาท ให้แก่ชุมชนไร่กาแฟในภาคเหนือของประเทศไทย ผ่านมูลนิธิพัฒนาชาวเขาแบบผสมผสาน ยังสอดคล้องกับพันธกิจของสตาร์บัคส์ที่จะเปิดร้านกาแฟเพื่อชุมชนให้ได้ 1,000 แห่งทั่วโลกในปี 2573 อีกด้วย