หุ้นซึมหนัก บวก 0.05 จุด ปิดซื้อขายวันสุดท้ายของสัปดาห์แทบไม่เปลี่ยนแปลง
เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะหุ้นวันนี้ว่า หุ้นไทยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,490.46จุด เคลื่อนไหวในแดนลบสลับบวกที่ระดับ 1,490.51 จุด ปรับลดลง 0.05 จุด หรือ 0.00% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,496.59 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,474.94 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 35,227.98 ล้านบาท
โดยนายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ ลิเบอเรเตอร์ จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีปรับตัวลงแรงกว่า 15 จุดในช่วงเปิดตลาด ก่อนจะดีดตัวขึ้น (รีบาวด์) ประมาณ 6 จุด และอ่อนตัวลงแม้สามารถยืนแดนบวกได้ แต่ดัชนีก็แทบไม่มีการเปลี่ยนแปลง โดยดัชนีหุ้นกลับมาหลุดระดับ 1500 จุด ซึ่งเป็นระดับจิตวิทยาสำคัญอีกครั้ง โดยสาเหตุเป็นเพราะตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาดอย่างร้อนแรงทั้งภาคบริการและการจ้างงาน ทำให้ตลาดกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งโอกาสการปรับขึ้นดอกเบี้ยอย่างต่อเนื่อง เพื่อกดความร้อนแรงของเศรษฐกิจ และเงินเฟ้อ ส่งผลกดดันตลาดในระยะสั้น
นายวิจิตร กล่าวว่า ตลาดหุ้นไทยมีปัจจัยกดดันเฉพาะตัวอย่างการเมือง ที่ยังมีความคลุมเครืออยู่ หากหุ้นจะก้าวข้ามปัจจัยนี้และขึ้นได้อีกครั้ง มี 2 ปัจจัยคือ การโหวตนายกรัฐมนตรีต้องไม่ยืดเยื้อ แต่มงว่าอาจมีจังหวะของการยืดเยื้ออยู่บ้าง เพราะต้องผ่านด่านส.ว. 250 เสียง ที่โอกาสในการรับรองยังดูค่อนข้างยาก เพราะมีประเด็นในเรื่องยกเลิก ม.112 ทำให้กว่าจะได้เห็นนายกฯ อาจลากยาวไปถึงปลายเดือนกรกฎาคมนี้ได้ และ 2.เมื่อมีความไม่แน่นอนของตัวนายกฯ ก็จะฟอร์มทีมรัฐบาลไม่ได้ ถือเป็นแรงกดดันระยะสั้น จนกว่าจะเห็นตัวนายกฯ ที่จะขึ้นมาจริงๆ ซึ่งมองว่าหากนายกฯ เป็นพรรคก้าวไกล หรือเพื่อไทย มองว่าตลาดจะตอบรับดีในระดับหนึ่ง แต่หากเป็นเสียงข้างน้อย จะตอบรับไม่ดีเท่าที่ควร โดยให้กรอบแนวรับที่ระดับ 1,460 จุด แนวต้านหากให้ดีต้องยืนเหนือระดับ 1,500 จุด และ 1,520 จุด
