กกพ.ชี้ลดค่าไฟได้แต่รัฐบาลต้องอุ้มกฟผ. แนะทางออก ‘ส่วนลด’ บิลค่าไฟ ดีกว่ารื้อราคา
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(สำนักงานกกพ.) เปิดเผยถึงค่าไฟงวดเดือนกันยายน-ธันวาคม2566 ว่า ภายหลังกกพ.เปิดรับฟังความเห็นประชาชน วันที่ 7-21 กรกฎาคม 2566 3 แนวทาง ประกอบด้วย กรณี1 ค่าไฟอยู่ที่ 6.28 บาทต่อหน่วย มาจากค่าเอฟที 28.58 สตางค์ต่อหน่วย คืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 221.23 สตางค์ต่อหน่วย กรณี2 ค่าไฟเท่าเดิม 4.70 บาทต่อหน่วย มาจากค่าเอฟที 28.58 สตางค์ต่อหน่วย คืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 62.61 สตางค์ต่อหน่วย และกรณี3 ค่าไฟลดลงเหลือ 4.45 บาทต่อหน่วย มาจากค่าเอฟที 28.58 สตางค์ต่อหน่วย คืนหนี้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) 38.31 สตางค์ต่อหน่วย จากค่าไฟงวดปัจจุบัน(พฤษภาคม-สิงหาคม2566)อยู่ที่ 4.70 บาทต่อหน่วย หากประชาชนไม่เห็นด้วยกับ 3 แนวทางสามารถเสนอแนวทางอื่นได้
อย่างไรก็ตามยืนยันว่าการคำนวณดังกล่าวมาจากข้อมูลการพยากรณ์อย่างรอบด้าน พร้อมคำนึงถึงสถานะการเงินของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ที่แบกหนี้กว่า 1.35 แสนล้านบาท หากปล่อยให้กฟผ.ประสบปัญหาสภาพคล่องอาจทำให้กระทบกับการจัดส่งรายได้เข้ารัฐ กระทบแผนลงทุนทั้งการปรับปรุงโรงไฟฟ้า สายส่ง ตลอดจนการลงทุนโรงไฟฟ้าใหม่ ซึ่งการดำเนินการส่วนนี้สะดุดลงอาจทำให้เกิดปัญหาไฟตกไฟดับตามได้
“จาก 3 ทางค่าไฟมีทั้งคืนหนี้กฟผ.งวดเดียว 100% คืนบางส่วน และคืนแบบแบ่งหนี้เป็น 5 งวด หากจะไม่คืนหนี้เลยผู้ถือหุ้นกฟผ. คือ รัฐบาล ต้องเป็นผู้ตัดสินใจ ส่วนจะใช้วิธียืดหนี้รูปแบบไหนอยู่ที่รัฐบาลจะดำเนินการ แต่ในเวลานี้ยังไม่มีนโยบายใดออก กกพ.จึงต้องดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่ต้องดูแลทั้งประชาชนและกฟผ.ให้อยู่ได้”นายคมกฤชกล่าว
นายคมกฤช กล่าวว่า สำหรับรัฐบาลชุดใหม่ที่คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในเดือนสิงหาคมนี้ หากมีนโยบายค่าไฟใดๆออกมาต้องเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) ก่อน และมีมติผ่านกพช.มายังกกพ. รูปแบบคล้ายกับช่วงที่ราคาพลังงานแพงต้นปี กพช.จึงสั่งการให้กกพ.ทำค่าไฟ 2 ราคาเพื่อช่วยเหลือประชาชนและให้เอกชนรับภาระมากกว่า โดยค่าไฟงวดใหม่นี้จะเริ่มบังคับใช้เดือนกันยายน-ธันวาคม2566 เป็นตัวเลขประมาณการ หากรัฐบาลใหม่จะลดค่าไฟช่วยเหลือประชาชน รูปแบบที่เหมาะสมรัฐบาลควรออกเป็นส่วนลดรายเดือนหักในบิลค่าไฟจะสะดวกกว่าการรื้อโครงสร้างราคางวดปลายปี และค่อยมีนโยบายเกี่ยวกับราคาค่าไฟในการพิจารณาค่าไปงวดใหม่ หรือ งวดมกราคม-เมษายน 2567 ต่อไป
รายงานข่าวคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) แจ้งว่า เอกชนยังคงต้องการให้กกพ.ลดค่าไฟเหลือระดับ 4.25 บาทต่อหน่วย จากปัจจุบัน 4.70 บาทต่อหน่วย เพราะเป็นการประเมินจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่ลดลง ส่วนคืนกฟผ.อยากให้ขยายออกไปเป็น 6 งวด เพื่อให้ค่าเอฟทีลดลงอีก 10 สตางค์ต่อหน่วย ส่วนความคืบหน้าการส่งหนังสือขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลดค่าไฟเหลือระดับ 4.25 บาทต่อหน่วย จะส่งได้ภายในสัปดาห์ใหม่นี้
