‘บีทีเอส’ เตรียมเปิดให้ ปชช.ทดลองนั่งสายสีชมพูฟรี ช่วง ก.ย.-ต.ค. ก่อนเปิดเชิงพาณิชย์ พ.ย.66
เมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม ที่สถานีลาดปลาเค้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบความพร้อมก่อนทดสอบการเดินรถไฟฟ้าเสมือนจริง (Trial Run) ของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี จากสถานีมีนบุรี-สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ พร้อมทั้งตรวจเยี่ยมจุดเชื่อมต่อระหว่างโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู และโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้มในอนาคต บริเวณสถานีมีนบุรี
นายคีรี กาญจนพาสน์ ประธานกรรมการบริษัท บีทีเอส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงสถานีแคราย-มีนบุรี กล่าวว่า ปัจจุบันความคืบหน้าของโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงสถานีแคราย-มีนบุรี ในส่วนของงานก่อสร้าง คืบหน้าแล้วกว่า 97% โดยคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนเข้าร่วมทดสอบการเดินรถเสมือนจริง (Trial Run) ในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายนนี้ ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้ประชาชนทดลองนั่งฟรีในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม 2566 และจะเปิดให้บริการอย่างเต็มรูปแบบเชิงพาณิชย์ได้ภายในเดือนพฤศจิกายน 2566
ส่วนที่ยังติดปัญหาเรื่องการนำสายไฟลงดินนั้น อยู่ระหว่างรอให้การไฟฟ้านำสายไฟลงดิน ในช่วง 3 สถานี ได้แก่ สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ และสถานีแจ้งวัฒนะ 14 ซึ่งคาดว่าจะดำเนินการแล้วเสร็จก่อนเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 แน่นอน
ด้าน นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการบริษัท นอร์ทเทิร์น บางกอกโมโนเรล จำกัด (เอ็มบีเอ็น) กล่าวว่า ในส่วนของความคืบหน้าโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ส่วนต่อขยาย ช่วงสถานีศรีรัช-เมืองทองธานี นั้น บริษัทจะเร่งเปิดให้บริการในช่วงปลายปี 2567 ซึ่งเร็วกว่าไทม์ไลน์เดิมที่คาดว่าจะเปิดให้บริการเส้นทางดังกล่าวได้ในช่วงกลางปี 2568 โดยปัจจุบันการก่อสร้างเดินหน้าไปแล้วกว่า 20%
สำหรับมีแนวเส้นทางเชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้ามหานคร สายสีชมพู ที่สถานีเมืองทองธานี เข้าสู่ซอยแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 39 ไปสิ้นสุดที่บริเวณทะเลสาบในเมืองทองธานี ประกอบไปด้วย สถานีอิมแพค เมืองทองธานี และสถานีทะเลสาบเมืองทองธานี มีระยะทางโดยประมาณ 3 กิโลเมตร
ขณะที่ นายภคพงศ์ ศิริกันทรมาศ ผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) กล่าวว่า โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู นับเป็นโมโนเรลสายที่ 2 ของประเทศไทย ที่จะช่วยเชื่อมต่อการเดินทางของประชาชนในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ฝั่งตะวันออก ฝั่งเหนือ และจังหวัดนนทบุรี เข้าสู่พื้นที่ใจกลางเมืองได้โดยสะดวก โดยโครงการมีระยะทางรวม 34.5 กิโลเมตร เป็นโครงสร้างทางวิ่งยกระดับตลอดสาย มีสถานีให้บริการทั้งสิ้น 30 สถานี
นายภคพงศ์กล่าวอีกว่า สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี สถานีแคราย สถานีสนามบินน้ำ สถานีสามัคคี สถานีกรมชลประทาน สถานีแยกปากเกร็ด สถานีเลี่ยงเมืองปากเกร็ด สถานีแจ้งวัฒนะ-ปากเกร็ด 28 สถานีศรีรัช สถานีเมืองทองธานี สถานีแจ้งวัฒนะ 14 สถานีศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ สถานีโทรคมนาคมแห่งชาติ สถานีหลักสี่ สถานีราชภัฏพระนคร สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ สถานีรามอินทรา 3 สถานีลาดปลาเค้า สถานีรามอินทรา กม.4 สถานีมัยลาภ สถานีวัชรพล สถานีรามอินทรา กม.6 สถานีคู้บอน สถานีรามอินทรา กม.9 สถานีวงแหวนรามอินทรา สถานีนพรัตน์ สถานีบางชัน สถานีเศรษฐบุตรบำเพ็ญ สถานีตลาดมีนบุรี และสถานีมีนบุรี โดยมีศูนย์ซ่อมบำรุงฯ และจุดจอดแล้วจร (Park and ride) บริเวณสถานีมีนบุรี
พร้อมทั้งมีจุดเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้า 4 สายหลัก ได้แก่ รถไฟฟ้ามหานคร สายสีส้ม ช่วงศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ที่สถานีมีนบุรี รถไฟฟ้าสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต ที่สถานีหลักสี่ รถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-สะพานใหม่-คูคต ที่สถานีวัดพระศรีมหาธาตุ รถไฟฟ้ามหานคร สายฉลองรัชธรรม (เอ็มอาร์ทีสายสีม่วง) ที่สถานีศูนย์ราชการนนทบุรี
