จอดป้ายประชาชื่น : ม็อบฮือ…เศรษฐกิจระส่ำ

จอดป้ายประชาชื่น : ม็อบฮือ...เศรษฐกิจระส่ำ ผลคะแนนของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์

ผลคะแนนของ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแบบบัญชีรายชื่อ หัวหน้าและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคมที่ผ่าน สรุปว่า ยังไม่ได้รับความเห็นชอบ โดยเฉพาะจากสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ที่ส่วนใหญ่เลือกงดออกเสียง จึงต้องรอลุ้นการโหวตนายกฯครั้งต่อไป 19 กรกฎาคมนี้

เป็นไปอย่างที่บางคนคาดเดาว่า ส.ส.ว่าที่ฝ่ายค้าน และ ส.ว. จะไม่ให้การสนับสนุนและลงคะแนนให้นายพิธาได้เป็นนายกฯ แต่หลายคนหวังให้นายพิธาและพรรคก้าวไกลได้เข้ามาเป็นรัฐบาลให้ได้ จึงไม่แปลกที่จะเกิดการชุมนุมจากกลุ่มที่สนับสนุนพรรคก้าวไกลต่อเนื่อง

จากประวัติศาสตร์การเมือง การเกิดการชุมนุมย่อมส่งผลกระทบต่อสังคมและเศรษฐกิจของประเทศ การลงทุนและการท่องเที่ยว ไม่มากก็น้อย ขึ้นอยู่กับดีกรีของการชุมนุม ซึ่งเรื่องการลงทุนมีสัญญาณการชะลอตัวมานาน โดยเฉพาะการลงทุนใหม่ อันเนื่องมาจากการรอดูนโยบายของรัฐบาลใหม่

ยิ่งจัดตั้งรัฐบาลได้ช้า นักลงทุนต่างชาติก็อาจเลือกไปประเทศอื่นแทน

Advertisement

ส่วนการท่องเที่ยว ถือเป็นเครื่องยนต์สำคัญของปีนี้ที่จะช่วยดันเศรษฐกิจให้เติบโตได้ แต่การชุมนุมอาจจะทำให้การเดินทางยากลำบากขึ้น และนักท่องเที่ยวก็ขาดความมั่นใจในเรื่องความปลอดภัย

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ระบุว่า หากเกิดการชุมนุมยืดเยื้อไปมากกว่า 6 เดือน นักท่องเที่ยวจะหายไป และทำให้สูญเม็ดเงินเข้าระบบเศรษฐกิจกว่า 2-5 แสนล้านบาท คิดเป็นกระทบจีดีพีปี 2566 ให้ลดลงไป 1% จากกรอบที่คาดไว้ 3-3.5% ต่อปี

ขณะที่กระทรวงการคลังยังคงประมาณการจีดีพีปี 2566 ไว้ที่ 3.6% โดยยังคงไม่ประเมินปัจจัยเรื่องการชุมนุมทางการเมืองเข้าไป แต่จะมีการประเมินใหม่ในช่วงปลายเดือนกรกฎาคมนี้

Advertisement

ถือเป็นอีกปีที่การเมืองกลับมาร้อนระอุ ปัจจัยลบรุมเร้าเศรษฐกิจ

ได้แต่หวังว่าทุกอย่างจะจบด้วยดีและไม่มีความรุนแรง

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image