ค่าบาททรงตัวที่ 34.60 คาดขยับกรอบแคบ หลังตลาดรอความชัดเจนการเมืองไทย

ค่าบาททรงตัวที่ 34.60 คาดขยับกรอบแคบ หลังตลาดรอความชัดเจนการเมืองไทย

เมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ที่ระดับ 34.60 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัว ไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดวันก่อนหน้า มองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.40-34.70 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบแคบในช่วง 34.56-34.69 บาทต่อดอลลาร์ โดยมีจังหวะผันผวนอ่อนค่าตามการแข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ จากรายงานดัชนีภาคการผลิตโดยเฟดนิวยอร์ก (NY Empire Manufacturing Index) ออกมาดีกว่าคาด ก่อนที่เงินดอลลาร์จะย่อตัวลงตามภาวะเปิดรับความเสี่ยงของตลาด ทำให้ค่าเงินบาทกลับมาแกว่งตัวใกล้ระดับก่อนรับรู้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐดังกล่าว

นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทอาจยังพอได้แรงหนุนฝั่งแข็งค่าอยู่บ้าง จากทั้งการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ โฟลว์ธุรกรรมขายทำกำไรการรีบาวด์ของราคาทองคำ แต่ทว่าการแข็งค่าของเงินบาทก็อาจเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากนักลงทุนต่างชาติอาจรอความชัดเจนของสถานการณ์การเมืองไทยอยู่ ทำให้แรงขายสินทรัพย์ไทยจากนักลงทุนต่างชาติอาจยังพอมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะแรงขายบอนด์ระยะสั้น

นายพูนกล่าวว่า นอกจากนี้ ควรระวังความผันผวนในช่วงตลาดการเงินทยอยรับรู้รายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียน โดยเฉพาะหุ้นเทคฯใหญ่ และหุ้นสถาบันการเงินใหญ่ของสหรัฐ เพราะหากตลาดผิดหวังกับรายงานผลประกอบการก็อาจทำให้ตลาดการเงินพลิกกลับมาอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ซึ่งอาจเห็นเงินดอลลาร์ทยอยแข็งค่าขึ้นได้เช่นกัน

Advertisement

ทั้งนี้ ค่าเงินบาทอาจแกว่งตัวแคบในกรอบที่เคยประเมินไว้ โดยมีโซนแนวรับในช่วง 34.40-34.50 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนโซนแนวต้านยังคงอยู่ในช่วง 34.70-34.80 บาทต่อดอลลาร์ จนกว่าจะมีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาเปลี่ยนแปลง อาทิ บรรยากาศในตลาดการเงิน การประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของทางการจีน (ถ้ามี) และสถานการณ์การเมืองไทยในช่วงระยะสั้น

“ช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและบรรยากาศในตลาดการเงินที่อาจพลิกไปมาในช่วงรับรู้รายงานผลประกอบการ ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน” นายพูนกล่าว

นายพูนกล่าวว่า ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามรายงานข้อมูลดัชนีภาคการผลิตโดยเฟดนิวยอร์กที่ออกมาดีกว่าคาด อย่างไรก็ดี การรีบาวด์ขึ้นของเงินดอลลาร์ก็ยังคงเผชิญแรงขายทำกำไร เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างคาดว่าเฟดอาจใกล้ถึงจุดสิ้นสุดการปรับขึ้นดอกเบี้ย แม้รายงานข้อมูลเศรษฐกิจล่าสุดจะออกมาดีกว่าคาดก็ตาม ส่งผลให้ล่าสุดดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) เคลื่อนไหวผันผวนใกล้ระดับ 99.9 จุด (กรอบการเคลื่อนไหว 99.8-100.2 จุด ในช่วงคืนที่ผ่านมา)

Advertisement

สำหรับวันนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจที่น่าสนใจจะอยู่ที่รายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) ของสหรัฐ โดยนักวิเคราะห์มองว่ายอดค้าปลีกเดือนมิถุนายนอาจขยายตัว +0.5% จากเดือนก่อนหน้า หนุนโดยยอดขายรถยนต์ ตามการปรับลดราคารถยนต์ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมผลของยอดขายรถยนต์และน้ำมัน (Retail Sales Ex. Auto & Gas) อาจโตเพียง +0.1%m/m ชี้ว่าผู้บริโภคฝั่งสหรัฐก็เริ่มปรับลดการใช้จ่ายลง โดยเฉพาะในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary)

“นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีทั้งสถาบันการเงินและบริษัทเทคฯขนาดใหญ่ อาทิ BofA, Morgan Stanley เป็นต้น” นายพูนกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image