เปิด 2 ปัจจัย อีวีฮอต-เข้มสินเชื่อ กดยอดขายรถยนต์ในประเทศร่วง ปรับเป้าปีนี้ใหม่ ส.อ.ท.เผย กระบะ รถบรรทุก อาการหนัก ชี้ตั้ง รบ.ช้าไม่กระทบอุตฯ แต่ลุ้นอีวี 3.5 หวังเดินหน้าปี’67
นายสุรพงษ์ ไพสิฐพัฒนพงษ์ รองประธาน และโฆษกกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า กลุ่มอุตฯยานยนต์ส.อ.ท.ได้ปรับเป้าหมายการผลิตรถยนต์ของไทยในปี 2566 ลดลง 50,000 คันจากเดิมวางเป้าหมายการผลิตรวมอยู่ที่ 1,950,000 คันแบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออก 1,050,000 คันผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศ 900,000 คัน เป็นการผลิตรวม 1,900,000 คันลดลงจากเป้าเดิม 2.56% แบ่งเป็นการผลิตเพื่อการส่งออกคงเดิม 1,050,000 คัน แต่ลดการผลิตเพื่อจำหน่ายในประเทศลงเหลือเป็น 850,000 คันหรือลดลง 5.56%
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า สาเหตุหลักจาก 1.การเข้ามาของยานยนต์ไฟฟ้า(อีวี) ที่เริ่มแย่งส่วนแบ่งตลาดของรถยนต์ที่ใช้น้ำมันหรือสันดาปภายในมากกว่า 5% เนื่องจากอีวีเป็นรถยนต์นำเข้ายังไม่ได้ผลิตในประเทศ และครึ่งปีหลังต้องติดตามใกล้ชิดหากมีการอีวีราคาต่ำมาทำตลาดเพิ่มอีกจะกระทบมากขึ้น
2.สถาบันการเงินเข้มงวดในการอนุมัติสินเชื่อรถยนต์จากหนี้ครัวเรือนที่สูงถึง 90.6% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ หรือ จีดีพี การส่งออกของไทยที่ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 8 ทำให้มีการลดการผลิตและลดการทำงานทำให้อำนาจซื้อลดลง ท่วมกลางอัตราดอกเบี้ยที่ยังคงเป็นขาขึ้นและค่าครองชีพที่สูงประชาชนจึงระมัดระวังการใช้จ่าย
สำหรับ ยอดการผลิตรถยนต์เดือนมิถุนายน 2556 จำนวน 145,557 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.78% รวม 6 เดือนแรกปีนี้ (มกราคม-มิถุนายน 2566) ผลิตรถยนต์รวมทุกประเภทได้ 921,512 คัน เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 5.91% เป็นการจำหน่ายในประเทศ 64,440 คัน ลดลง 5.16% เป็นการลดลงของรถกระบะและรถบรรทุก เพราะสถาบันการเงินเข้มงวดสินเชื่อและมีการนำรถบรรทุกจากเพื่อนบ้านมาทำตลาดเพิ่ม ส่งผลให้ 6 เดือนมียอดจำหน่ายในประเทศอยู่ที่ 406,131 คัน ลดลง 4.95%
ขณะที่ยอดส่งออกรถยนต์สำเร็จรูปเดือนมิถุนายน 2566 อยู่ที่ 88,826 คัน เพิ่มขึ้น 20.22% ส่งผลให้ 6 เดือนอยู่ที่ 528,816 คันเพิ่มขึ้น 17.61% รวมมูลค่าการส่งออก 6 เดือนแรก 329,181 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.45%
นายสุรพงษ์ กล่าวถึงการจัดตั้งรัฐบาลของไทยในปัจจุบันที่ล่าช้าว่า ยังไม่มีผลกระทบต่ออุตสาหกรรมยานยนต์อย่างมีนัยสำคัญ เชื่อมั่นว่าการจัดตั้งรัฐบาลน่าจะแล้วเสร็จภายในสิงหาคมนี้ อย่างไรก็ตามสิ่งที่ต้องติดตามคือ มาตรการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้า อีวี 3.5 ตามมติคณะกรรมการยานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ที่วางไว้ในการสนับสนุนโรงงานผลิตแบตเตอรี่ รวมถึงเงินสนับสนุน หากไม่ต่อเนื่องยอมรับว่าจะกระทบต่อการนำเข้าอีวีมาจำหน่ายในประเทศให้สะดุดลง รวมถึงความเชื่อมั่นต่อผู้ลงทุนผลิตในประเทศ
“ผมยังเชื่อมั่นว่ารัฐบาลใหม่จะยังคงสนับสนุนตามแนวทางที่บอร์ดอีวีวางไว้ เวลานี้คนไทยนิยมใช้รถอีวีมากขึ้น ยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าเดือนมิถุนายน 2566 สูงถึง 8,260 คัน เพิ่มขึ้น 54.74% ขณะที่รถยนต์ไฟฟ้าจดทะเบียนใหม่ หรือ ป้ายแดง 6 เดือนอยู่ที่ 31,515 คัน เพิ่มขึ้นถึง 984.40% “ นายสุรพงษ์กล่าว
