อนันดา แจง ตลท. จะแจ้งความคืบหน้าหาทางออกปมถูกศาลสั่งถอนใบอนุญาตก่อสร้างแอชตัน อโศก 31 ก.ค. ย้ำขอ 14 วันถก ‘กทม.-รฟม.’
จากกรณีศาลปกครองสูงสุด ได้ออกคำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตก่อสร้างโครงการแอชตัน อโศกของบริษัท อนันดา เนื่องจากใช้ทางร่วมกับที่ดินเวนคืนของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) นั้น
อ่าน :
–ศาลปกครองสูงสุด พิพากษายืน สั่งเพิกถอนใบอนุญาตสร้างคอนโดหรู แอชตัน อโศก
–“ผู้บริหารอนันดา” ขอ 14 วันถก “กทม.-รฟม.” หาทางออก-มาตรการเยียวยาผลกระทบหลังศาลสั่ง ยันไม่ได้ทำผิดกม.
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด ได้ทำหนังสือถึงตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม เรื่องขอแจ้งคําพิพากษาของคดีโครงการแอชตัน อโศก ลงนามโดยนายชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โดยมีรายละเอียด ดังนี้
บริษัทอนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จํากัด (มหาชน) ขอเรียนให้ทราบว่าเมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2566 ศาลปกครองสูงสุด ได้มีคําพิพากษาในคดีที่สมาคมต่อต้านสภาวะโลกร้อนกับพวก (ผู้ฟ้องคดี) ได้ยื่นฟ้องผู้อํานวยการเขตวัฒนา ที่ 1, ผู้อํานวยการสํานักการโยธา ที่ 2, ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่ 3, ผู้ว่าการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ที่ 4, คณะกรรมการชํานาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมด้านอาคาร การจัดสรรที่ดิน และบริการชุมชน ที่ 5, (ผู้ถูกฟ้องคดี) และบริษัท อนันดา เอ็มเอฟ เอเชีย อโศก จํากัด (ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท) ซึ่งไม่ใช่ผู้ถูกฟ้องคดีโดยตรง แต่ถูกเรียกเข้ามาในฐานะเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากผลแห่งคดี ในฐานะผู้ร้องสอด ในคดีหมายเลขดําที่ อส.67/2564 หมายเลขแดงที่ อส. 188/2566 โดยศาลปกครองสูงสุดได้มีคําพิพากษา ยืนตามคําพิพากษาศาลปกครองกลาง
บริษัทขอน้อมรับและเคารพในคําพิพากษาของศาลปกครองสูงสุดตามที่ได้วินิจฉัยไว้กรณีที่ศาลปกครองสูงสุด ได้วินิจฉัยไว้ในประเด็นสําคัญที่ว่า ที่ดินของ รฟม. ไม่อาจนํามาให้บริษัทฯ หรือเอกชนใช้ในการทําโครงการได้ จึงทําให้หน่วยงานของรัฐไม่อาจออกใบอนุญาตในการก่อสร้าง จึงมีผลให้ใบอนุญาตไม่ชอบด้วยกฎหมาย นั้น
บริษัทเห็นว่าศาลปกครองซึ่งมีหน้าที่พิจารณาคดีพิพาทระหว่างหน่วยงานของรัฐ และหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ กับเอกชน เพื่อปกป้องคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชน รวมทั้งเพื่อวางแนว หรือสร้างบรรทัดฐานในการปฏิบัติราชการให้ถูกต้องชอบธรรม อีกทั้งภายใต้กฎหมายรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยทุกฉบับ รวมถึง ฉบับปัจจุบันพุทธศักราช 2560 ในส่วนบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่ของรัฐ ในกรณีที่รัฐจะอนุมัติ หรืออนุญาตให้ผู้ใดทําการได้ ก็จะต้องดําเนินการไปตามกฎหมายโดยรัฐมีหน้าที่โดยตรงที่จะต้องใช้อํานาจและหน้าที่ด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง ไม่ประมาทเลินเล่อหรือไม่ชอบด้วยกฎหมายอันเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายกับประชาชน หรือผู้ประกอบการ ยิ่งไปกว่านั้น หากมีการกระทําที่ไม่ชอบด้วยกฎหมายดังเกิดขึ้นเป็นคดีนี้แล้ว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ต้องรับผิดชอบและทําการเยียวยาในความเดือดร้อนเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างเป็นธรรม และโดยไม่ชักช้า
ดังนั้น ผลแห่งคําพิพากษาที่เกิดขึ้นดังกล่าว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมดจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น อย่างไม่อาจปฏิเสธความรับผิดชอบได้ต่อเจ้าของร่วมอาคารชุด และบริษัท เพราะหากหน่วยงานราชการผู้มีอํานาจหน้าที่ไม่เห็นชอบและอนุมัติแล้วโครงการนี้จะไม่สามารถก่อสร้างได้ตั้งแต่แรกซึ่งจะไม่เกิดความเสียหายกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องทั้งหมด เพื่อเยียวยาความเสียหายแก่เจ้าของร่วมอาคารชุดและบริษัท โดยเร็ว
รวมทั้ง บริษัทจะดําเนินการประสานงานคณะกรรมการนิติบุคคลของแอชตัน อโศก และท่านเจ้าของร่วม เพื่อขอเข้าพบผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และผู้ว่าการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยเพื่อทวงถามความรับผิดชอบในความเสียหายที่เกิดขึ้น ภายใน 14 วัน (สิบสี่) นับแต่วันนี้
บริษัทใคร่ขอยืนยันว่า การทําโครงการแอชตัน อโศก นั้น ได้มีการตรวจสอบประเด็นทางกฎหมาย รวทั้งข้อกําหนดที่เกี่ยวข้องกับการขออนุญาตต่างๆ รวมทั้งสภาพที่ดินของโครงการอย่างรอบคอบรัดกุม อีกทั้ง การพิจารณาอนุมัติในการทําโครงการต่างๆ ยังได้ผ่านการพิจารณาอนุมัติ และภายใต้การกํากับ ควบคุมจากหน่วยงานของรัฐไม่ตํ่ากว่า 8 หน่วยงานจึงเป็นที่เห็นประจักษ์และยืนยันได้ว่า บริษัทได้ดําเนินการไปด้วยความสุจริต และชอบด้วยกฎหมายอย่างชัดเจนแล้วทุกประการเท่าที่บริษัทจะทําได้ด้วยความเชื่อถือโดยสุจริตว่าการอนุมัติของหน่วยงานราชการทุกฝ่ายนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว
บริษัทจึงใคร่ขอความเป็นธรรมจากทุกภาคส่วนที่จะร่วมกันแก้ไขป้องกันมิให้ปัญหาที่เกิดขึ้นดังเช่นคดีนี้ที่ได้เกิดขึ้นอีก และเรียกร้องให้หน่วยงานของรัฐได้เยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นโดยเร็วด้วย
ขณะนี้ บริษัทอยู่ระหว่างการหารือ และประสานงานกับฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเรื่องผลกระทบที่เกิดขึ้น และแนวทางในการแก้ไข โดยบริษัทจะแจ้งความคืบหน้าในรายละเอียดผ่านช่องทางของตลาดหลักทรัพย์ฯ ในเช้าวันจันทร์ ที่ 31 กรกฎาคม 2566