“คลัง” เล็งรื้ออุ้มคนจน เลิกควักจ่ายหว่านแห จ่อจำกัดวงเงินเบี้ยชรา เฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ 

“คลัง” เล็งรื้ออุ้มคนจน เลิกควักจ่ายหว่านแห จ่อจำกัดวงเงินเบี้ยชรา เฉพาะผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ

เมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม แหล่งข่าวจากกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ภายหลังการจัดตั้งรัฐบาลชุดใหม่ กระทรวงการคลังจะเสนอแนวทางลดรายจ่ายเพื่อดูแลฐานะการคลังให้มีความยั่งยืน โดยหนึ่งในมาตรการคือปรับลดรายจ่ายสวัสดิการ โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความซ้ำซ้อน หรือลดกลุ่มเป้าหมายลง เช่น การจ่ายเงินเบี้ยผู้สูงอายุ และการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ถือเป็นการใช้นโยบายการคลังที่เจาะจงกลุ่มเป้าหมาย ลดภาระทางการคลัง เป็นแนวทางในหลายประเทศทั่วโลกหันมาใช้ หลังใช้จ่ายเงินดูแลเศรษฐกิจและสังคมจำนวนมากในช่วงโควิด-19

“จากการประเมินภาวะเศรษฐกิจนับจากนี้ จะสามารถขยายตัวได้ดี ประกอบกับการแพร่ระบาดของโควิดคลี่คลายลง ดังนั้น ทิศทางนโยบายการคลังระยะนับจากนี้จะเข้าสู่ภาวะปกติ ต้องหันมาให้ความสำคัญกับความเข้มแข็งทางการคลัง เพิ่มการจัดเก็บรายได้ และการลดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น” แหล่งข่าวกล่าว

แหล่งข่าวระบุอีกว่า สำหรับสวัสดิการที่รัฐบาลเข้าไปดูแลกลุ่มเป้าหมายที่มองว่ามีความซ้ำซ้อน มีอาทิ สวัสดิการผู้มีรายได้น้อย ซึ่งมีอยู่หลายโครงการ อาทิ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ เงินสงเคราะห์ครอบครัว กองทุนสวัสดิการชุมชน โครงการสงเคราะห์ผู้ตกทุกข์ได้ยากกลับภูมิลำเนา สวัสดิการเหล่านี้อาจมีความซ้ำซ้อนของกลุ่มเป้าหมาย ต้องมีการตรวจสอบเพื่อจำกัดวงเงินการช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่ได้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเท่านั้น

แหล่งข่าวเสริมอีกว่า นอกจากนี้ ยังมีสวัสดิการสำหรับผู้สูงอายุที่มีความซ้ำซ้อน อาทิ การจ่ายเบี้ยผู้สูงอายุแบบขั้นบันได การจ่ายเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากลำบาก เงินสงเคราะห์ในการจัดทำศพ กองทุนผู้สูงอายุ เป็นต้น

Advertisement

“ในส่วนที่จะสามารถลดความซ้ำซ้อนการใช้จ่ายเพื่อสวัสดิการผู้สูงอายุ คือ เบี้ยยังชีพผู้สูงอายุแบบขั้นบันได โดยปี 2566 คาดว่ามีผู้สูงอายุได้รับเบี้ยยังชีพแบบขั้นบันไดประมาณ 11 ล้านคน หากจำกัดวงเงินการช่วยเหลือเฉพาะผู้ที่มีรายได้น้อยที่มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ จะทำให้สามารถประหยัดงบประมาณไปได้มาก” แหล่งข่าวกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image