| ผู้เขียน | ดร.เจษฎา ศิวรักษ์ |
|---|
ไทยแลนด์ 4.0 : ความเชื่อมั่นต่อโครงสร้างดิจิทัลไทยที่จะเชื่อมโลก?
แผนยุทธศาสตร์ชาติฉบับ 20 ปี (2561-2580) ซึ่งปัจจุบันนี้ได้มีการดำเนินการมากกว่า 1 ใน 4 แล้ว โดยหนึ่งในยุทธศาสตร์ที่สำคัญก็คือยุทธศาสตร์ในการสร้างความสามารถในการแข่งขัน โดยมีประเด็นในเรื่อง การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อเชื่อมไทยเข้าสู่โลก โดยมุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติ โดยหนึ่งในเทคโนโลยีสมัยใหม่ก็คือ เทคโนโลยี 5G
เมื่อกล่าวถึงเทคโนโลยี 5G แล้วสามารถจำแนกได้ออกเป็นสองส่วน ส่วนแรกเป็น 5G ที่ใช้ในเรื่องของการใช้บริการจากผู้ใช้ทั่วไป ผู้ใช้บริการอินเตอร์เน็ตบรอดแบนด์ที่ให้ความสำคัญในเรื่องของ ราคาค่าใช้บริการ (cost), เรื่องความพร้อมใช้บริการ (availability) เป็นปัจจัยสำคัญ กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือผู้ใช้ในกลุ่มนี้เน้นของถูกและจะต้องพร้อมใช้เสมอ ถ้าดูหนัง ฟังเพลงไม่ได้จะไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก ต่างกับการใช้ 5G ในกลุ่มที่สองที่ 5G จะถูกนำมาใช้เป็นโครงสร้างพื้นฐานในการปรับเปลี่ยนอุตสาหกรรมหรือธุรกิจเพื่อเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่เป็นระบบดิจิทัล (Digital Transformation) จำเป็นจะต้องมีการพิจารณาปัจจัยเรื่องความปลอดภัยไซเบอร์และข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลความลับทางการค้าที่เป็นสำคัญ ครับ ดังนั้นคำว่า ข้อมูลความลับที่ได้รับการปกป้อง (Confidentiality) และความน่าเชื่อถือของข้อมูล (Integrity) ที่อยู่บนโครงข่ายที่เชื่อมั่นได้จะเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับผู้ใช้ในกลุ่มที่สอง โครงข่าย 5G ในกลุ่มที่สองนี้อาจเรียกได้ว่าเป็น 5G for Business
5G for Business สามารถเลือกได้สองแบบ อย่างแรกคือการใช้ Network Slicing บนโครงข่าย 5G อันเดียวกับโครงข่าย 5G ปกติที่รองรับผู้ใช้บริการเพื่อดูหนัง ฟังเพลง กล่าวคือใช้โครงข่าย 5G เพื่อรองรับลูกค้าทั้งสองกลุ่ม คือทั้งลูกค้าทั่วไปและลูกค้ากลุ่มธุรกิจ Network Slicing เป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถกำหนดและสร้างเครือข่าย (network) ในลักษณะที่แยกกันออกเป็นส่วนย่อย (slice) โดยแต่ละส่วนย่อยสามารถกำหนดค่าและความสามารถต่างๆ ได้แยกกัน ก่อให้เกิดเครือข่ายที่เหมาะสำหรับการให้บริการแบบเฉพาะๆ ที่ต้องการความเร็ว ความปลอดภัย หรือความสามารถพิเศษที่แตกต่างกันไปโดยในแต่ละ slice ธุรกิจสามารถกำหนดค่าและบริการต่างๆ ตามความต้องการของลูกค้าหรือการให้บริการที่ต้องการให้กับกลุ่มลูกค้าที่มีความต้องการเฉพาะเจาะจง เช่นเครือข่ายสำหรับโทรศัพท์มือถือที่ต้องการความเร็วสูง : สามารถสร้าง slice ที่ให้ความเร็วสูงในการส่งข้อมูลและความเสถียรสูงสำหรับโทรศัพท์มือถือที่ต้องการการให้บริการที่มีความเร่งสูง เช่น การสตรีมวิดีโอหรือเล่นเกมออนไลน์ หรือเครือข่ายสำหรับธุรกิจที่ต้องการความปลอดภัย : สามารถสร้าง slice ที่มีการรักษาความปลอดภัยในระดับสูงสำหรับธุรกิจที่ต้องการความมั่นใจในการส่งข้อมูลที่เป็นความลับ หรือเครือข่ายสำหรับการแพทย์และดูแลสุขภาพ : สามารถสร้าง slice ที่ให้ความเสถียรสูงและความละเอียดสูงในการส่งข้อมูลสำหรับระบบการแพทย์และดูแลสุขภาพที่ต้องการความน่าเชื่อถือและความแม่นยำ กล่าวอีกนัยหนึ่งได้ว่า Network slicing ช่วยให้ธุรกิจสามารถเพิ่มความยืดหยุ่นในการให้บริการและตอบสนองต่อความต้องการของกลุ่มลูกค้าที่แตกต่างกันได้ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการและลดต้นทุนการดำเนินงานของเครือข่าย รวมถึงส่งเสริมการสร้างรายได้ในธุรกิจโดยให้บริการที่มีความหลากหลายและเหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าในกลุ่มต่างๆ ได้ดีขึ้น
แต่อย่างไรก็ตามการใช้เทคโนโลยี Network Slicing ผู้ให้บริการจะต้องเป็นที่น่าเชื่อถือได้ (Trusted Provider) ถ้าผู้ใช้บริการกลุ่มธุรกิจเกิดความเคลือบแคลงสงสัยก็จะปฏิเสธการใช้โครงข่าย 5G เพราะไม่มั่นใจข้อมูลทางธุรกิจที่เป็นความลับ หรือความถูกต้องของข้อมูลอาจถูกเปลี่ยนแปลงหรือทำลาย ก็จะปฏิเสธการใช้งานและไม่เสี่ยงที่จะทำ Digital Transformation
อีกแนวทางหนึ่งสำหรับ 5G for Business เป็นการใช้แนวทาง 5G Private Network ที่เป็นเครือข่ายโทรคมนาคมที่สร้างขึ้นเพื่อให้บริการแก่ธุรกิจหรือองค์กรที่มีความต้องการในการใช้งานเครือข่ายส่วนตัวที่มีความเร็วสูง ความปลอดภัยสูง และความเชื่อถือสูง โดยใช้เทคโนโลยี 5G ที่มีความสามารถพิเศษในการสื่อสารและการเชื่อมต่อสู่อุปกรณ์หลากหลายประเภทได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งเหมาะสำหรับการใช้งานในงานธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพสูงในการสื่อสารข้อมูลและข้อมูลสำหรับใช้งานต่างๆ คุณสมบัติและประโยชน์ของ 5G private network สำหรับธุรกิจได้แก่ : ความเร็วสูงมีการส่งข้อมูลเพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้งานแอพพลิเคชั่นและบริการออนไลน์ที่ต้องการความเร็วสูงได้ดีขึ้น เช่น การสตรีมวิดีโอหรือการใช้งานแอพพลิเคชั่นที่ต้องการประมวลผลข้อมูลอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถรองรับจำนวนอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกันได้อย่างสูง เช่น การเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT หรืออุปกรณ์ที่มีความจำเป็นต้องเชื่อมต่อในจำนวนมาก รวมทั้งมีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยนการให้บริการให้เหมาะสมกับความต้องการของธุรกิจในแต่ละช่วงเวลา การปรับแต่งเครือข่ายให้ตรงตามความต้องการทำให้ธุรกิจสามารถให้บริการที่แม่นยำและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น และเนื่องจากมีการลงทุนด้านอุปกรณ์และสร้างเครือข่ายโดยผู้ใช้บริการภาคธุรกิจเอง ก็จะมีความยืดหยุ่นในการควบคุมและการจัดการที่ง่าย ทำให้ธุรกิจสามารถติดตั้ง ปรับปรุง และดูแลระบบเครือข่ายได้ง่ายและสะดวกยิ่งขึ้น และหัวใจสำคัญคือ 5G private network สามารถให้ระบบการเชื่อมต่อที่มีความปลอดภัยสูง ทำให้ธุรกิจสามารถส่งข้อมูลที่เป็นความลับหรือข้อมูลที่อยู่ในสิทธิบัตรได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล
การใช้งาน 5G private network สำหรับธุรกิจสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน ลดเวลาในการตอบสนองแก่ลูกค้า และเพิ่มความสามารถในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ของธุรกิจในอนาคต อย่างไรก็ตามทางกลุ่มธุรกิจจำเป็นจะต้องใช้บริการทางผู้ให้บริการอยู่ทั้งในเรื่องการบริหารความถี่ การควบคุมบริหารจัดการโครงข่าย แต่จะมีความสบายใจขึ้นเมื่อสามารถมั่นใจในอุปกรณ์ (Trusted Device) ที่ส่งผลต่อความมั่นใจของโครงข่าย (Trusted Network)
บทสรุปการค้นหาในเรื่องนี้กล่าวคือระบบการผลิตทั่วโลกกำลังเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงสู่ระบบดิจิทัล (Digital Transformation) และจะต้องมีการเชื่อมโยงโครงข่ายเข้าหากัน มีแนวโน้มสูงมากที่ระบบการผลิตระดับโลกเหล่านี้จำเป็นจะต้องมีการดำเนินธุรกิจกับผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือ (Trusted Business) ที่มีการปรับตัวเข้าสู่ยุคดิจิทัลเหมือนกัน โดยจะเป็นผู้ประกอบการที่น่าเชื่อถือได้จำเป็นต้องได้ผู้ให้บริการดิจิทัลที่น่าเชื่อถือได้ (Trusted Provider) บนโครงข่ายดิจิทัลที่น่าเชื่อถือ (Trusted Network) โดยจะต้องพิจารณาอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงข่ายจะต้องมีความน่าเชื่อถือ (Trusted Device) ในสถานการณ์ปัจจุบันธุรกิจนานาชาติที่ต้องการเชื่อมโยงกับผู้ประกอบการของประเทศไทยยังมีความเคลือบแคลงสงสัยถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในโครงข่ายของผู้ให้บริการ ที่ยังขาดการควบคุมดูแลในเรื่องความปลอดภัย การเก็บความลับของข้อมูล การใช้เทคโนโลยี Network Slicing ของโครงข่าย 5G ที่ผู้ให้บริการ (Provider) ได้ลงทุนไปแล้ว ย่อมเป็นไปได้ยากตามแผนยุทธศาสตร์ภาครัฐ ดังนั้น การเปิดแนวทางเรื่อง 5G Private Network ย่อมมีความจำเป็นสำหรับประเทศไทย ที่จะทำให้ 5G for Business เป็นไปได้
ทั้งนี้อาจต้องมีความร่วมมือเรื่องนี้ทั้งผู้กำกับดูแล กสทช. ผู้กำหนดนโยบาย กระทรวงดิจิทัล และกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการปรับตัวเข้าสู่ดิจิทัล
ดร.เจษฎา ศิวรักษ์
หัวหน้าฝ่ายรัฐกิจและธุรกิจสัมพันธ์ บริษัทอีริคสันประเทศไทย
