‘ซีอีโอเอพี’ มึนการเมือง ไม่มายใครเป็นรัฐบาล แค่ทำให้ศก.ดีขึ้น ชี้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยลึกลับซับซ้อนกว่าเดิม

‘ซีอีโอเอพี’ มึนการเมือง ไม่มายใครเป็นรัฐบาล แค่ทำให้ศก.ดีขึ้น ชี้ปัจจุบันเศรษฐกิจไทยลึกลับซับซ้อนกว่าเดิม

เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม นายอนุพงษ์ อัศวโภคิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอพี ไทยแลนด์ จำกัด(มหาชน) กล่าวว่า จากสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการเมืองยังไม่นิ่ง ตอนนี้มองว่า เรื่องเศรษฐกิจไทยลึกลับซับซ้อนกว่าเดิมมาก และเราอิงเศรษฐกิจต่างประเทศด้วย ซึ่งสถานการณ์ยังวุ่นวาย ก่อนหน้านี้หวังว่าจีนจะมาท่องเที่ยวเมืองไทยแต่ยังไม่ได้ตามเป้า ดังนั้นจึงยากมากจะพูดว่าเศรษฐกิจจะไปทางไหน แต่ต้องบอกเลยว่าถ้าการเมืองยังมึน ยังเป็นแบบนี้อยู่จะเหนื่อย

“รัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามา ไม่ต้องช่วยภาคธุรกิจอสังหาฯหรอก แต่ขอให้รัฐบาลกลับไปทำให้เศรษฐกิจของประเทศให้ดี อสังหาฯจะดีเอง สำคัญที่สุดคือไปช่วยในพื้นที่ที่รัฐบาลช่วย ตั้งแต่โควิด ยังยืนยันเรื่องเดิม คือ ผมไม่คิดว่าใครที่เข้ามาเป็นรัฐบาลแล้วจะมีเงินเหลือเฟือ ผมว่าไม่มีทาง ซึ่งรัฐบาลต้องใช้เงินในมุมที่ใส่ลงไปแล้วต้องออกดอกออกผลให้มากที่สุด ซึ่งอสังหาฯจะดีได้คือเศรษฐกิจดีเท่านั้นเอง เมื่อได้รัฐบาลใหม่ต้องดูเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ดีที่สุดนำงบประมาณไปใส่ที่ตรงนั้น และบริหารให้ดี ก็โอเคแล้ว ไม่ต้องมาช่วยอสังหา พวกผมเอาตัวรอดกันได้ทุกที”นายอนุพงษ์กล่าว

นายอนุพงษ์กล่าวว่า ถามว่าจะตั้งรัฐบาลได้เมื่อไร ไม่สามารถตอบได้เพราะเห็นพลิกกันมาหลายรอบแล้ว ซึ่งตนไม่มายเลยว่าใครจะมารันประเทศ ขอให้เขาสามารถรันประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ เป็นอะไรที่ใส่เงินถูกที่ถูกทาง มีนโยบายถูกที่ถูกทางให้ประเทศเดินหน้าได้ ใครก็ได้จริงๆสำหรับผม แต่ขอให้รันประเทศได้อย่างถูกทางเท่านั้น

“แต่ถ้าหากการจัดตั้งรัฐบาลมีการลากยาวออกไป จะกระทบกับงบประมาณปี 2567 ยังไม่รู้จะทำยังไง ใครจะเป็นคนกระจายงบ เพราะตอนนี้ภาคส่งออกเหนื่อยมาก ซึ่งเราอาศัยเครื่องจักรอยู่ 2 ตัว คือ การบริโภคภายในประเทศ ซึ่งภาวะหนี้ครัวเรือนไม่ค่อยดียังอยู่ในภาวะสูง ส่วนการท่องเที่ยว ในปีนี้จีนดีขึ้น แต่ยังน้อย ยังต้องอาศัยเวลา ดังนั้นจึงเหลือแค่การใช้จ่ายงบประมาณรัฐเป็นความหวัง ถ้ารัฐบาลไม่ตั้ง งบประมาณไม่มาสักทีมันก็เหนื่อย ก็อยากทำให้เสร็จ ตั้งให้ได้ ขณะที่ภาคเอกชนถ้ารัฐบาลไม่ดี ตั้งหลักไม่ได้ ดันเศรษฐกิจไม่ได้ วันหนึ่งเอกชนก็ต้องซึม เพราะเราเชื่อมโยงกัน เราหนีกันไม่พ้น”นายอนุพงษ์กล่าว

Advertisement

นายอนุพงษ์กล่าวว่า สำหรับภาพรวมอสังหาริมทรัพย์จริงๆดีในช่วงพ้นโควิดปีที่แล้ว ซึ่งสิ่งที่เกิดขึ้นกับตลาดอสังหาฯ คือ ปลายปีที่แล้วมียกเลิกการผ่อนปรนมาตรการLTV ซึ่งLTVไม่ใช่ประเด็นหลัก แต่ประเด็นหลักคือ มีมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองมากระตุ้น ทำให้มีคนโอนบ้านเยอะมาก ทำให้ไตรมาส1และไตรมาส2 ปีนี้ซึม เพราะมีการดึงยอดโอนไปอยู่ไตรมาส4 ปีที่แล้ว ส่วนไตรมาส3และไตรมาส4 จะขึ้นอยู่กับภาวะเศรษฐกิจแล้ว ถ้าไม่ดีเราก็มึน ถ้าดีเราก็ไปได้ ขณะที่ปีหน้ายังไม่ตัองพูดถึงขอให้ผ่านครึ่งปีหลังนี้ให้ได้ก่อน

“สิ่งที่เกิดขึ้นในขณะนี้ทำให้มีผลตามมาแรงมาก เช่น ธนาคารพาณิชย์ให้สินเชื่อยากขึ้น เมื่อเรากู้ไม่ได้ มันเหนื่อย นอกจากเราต้องเจอรีเจกชั่นเรท ที่ลูกค้ากู้ไม่ผ่านแล้ว หนี้ครัวเรือนสูงแล้ว การขอสินเชื่อก็จะยากขึ้น เป็นสิ่งที่อุตสาหกรรมอสังหาฯกำลังเจอ ตอนนี้ผมทำงานดูเดือนต่อเดือน ถ้าเดือนไหนต้องปรับก็ปรับเดือนนั้น”นายอนุพงษ์กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image