‘อสังหาฯ’ ลุ้นโหวตนายกฯเพื่อไทย แนะเร่งแก้หนี้ ดีกว่าแจกเงินหมื่น จี้เก็บภาษีลาภลอย

‘อสังหาฯ’ ลุ้นโหวตนายกฯเพื่อไทย แนะเร่งแก้หนี้ ดีกว่าแจกเงินหมื่น จี้เก็บภาษีลาภลอย

เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม นายอิสระ บุญยัง กรรมการผู้จัดการบริษัท กานดา พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด และประธานคณะกรรมการอสังหาริมทรัพย์ออกแบบและก่อสร้าง สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ดูจากสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ แม้จะมีข้อกังขาอยู่บ้าง แต่มีแนวโน้มจัดตั้งรัฐบาลได้ โดยมีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ แต่นายกรัฐมนตรีจะเป็นนายเศรษฐา ทวีสิน หรือไม่ต้องว่ากันไปตามกระบวนการทางกฎหมายที่จะมีการโหวตในรัฐสภาว่าจะผ่านหรือไม่

จับตานโยบายเพื่อไทย

นายอิสระกล่าวว่า ด้านนโยบายเศรษฐกิจที่จะขับเคลื่อนหลังมีรัฐบาลแล้ว เนื่องจากมีหลายพรรคการเมืองผสม คงต้องมีการหารือร่วมกัน ซึ่งคงไม่ได้เป็นนโยบายจากพรรคเพื่อไทยพรรคเดียว เช่น แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะใช้งบประมาณมาก ส่วนการปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำเป็น 600 บาทนั้น ไม่น่าห่วงเพราะปรับเป็นขั้นบันได ทำให้มีเวลาในการปรับตัว ขณะที่นโยบายอื่นๆ ยังต้องติดตามจะทำได้สำเร็จหรือไม่ และจะมีวิธีการอย่างไร ไม่ว่าการลดค่าครองชีพ เช่น ลดราคาพลังงาน น้ำมัน ไฟฟ้า ก๊าช รวมถึงลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 20 บาทตลอด การพักหนี้ให้เกษตร เป็นต้น

“พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำรัฐบาล ดูนโยบายแล้วไม่มีผลต่อระบบเศรษฐกิจ เพราะไม่ได้มีการรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ คงจะทำให้เศรษฐกิจผ่อนคลายและเดินหน้าต่อทั้งนโยบายด้านการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานคมนาคมและนโยบายประชานิยมต่อเนื่องจากรัฐบาลชุดที่แล้ว ซึ่งไม่เหมือนนโยบายพรรคก้าวไกลที่จะรื้อโครงสร้างเศรษฐกิจและภาษีต่างๆ ซึ่งจะเป็นข้อกังขาต่อนักลงทุนไทยและต่างชาติ” นายอิสระกล่าว

Advertisement

ขอให้คงอัตราภาษีที่ดิน

นายอิสระกล่าวว่า สำหรับข้อเสนอต่อรัฐบาลใหม่นั้น ดูจากนโยบายหลายพรรครวมถึงพรรคเพื่อไทยยังไม่มีนโยบายเกี่ยวกับธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ขณะที่นโยบายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ขอให้รัฐบาลใหม่ทบทวนการจัดเก็บบ้านและคอนโดมิเนียมที่เป็นสต๊อกอยู่ เป็นอัตราเดียวกับที่อยู่อาศัย จากเดิมให้กำหนดเป็นประเภทอื่นๆ เพราะไม่ได้มีไว้เพื่อประกอบกิจการ
รวมถึงขอให้คงอัตราการจัดเก็บปัจจุบัน ซึ่งที่ดินเกษตรกรรมจัดเก็บ 0.01-0.1% ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัยจัดเก็บ 0.02-0.1% ที่ดินอื่นๆ เช่น การพาณิชยกรรม อุตสาหกรรม จัดเก็บ 0.3-0.7% และที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่ทิ้งว่างเปล่าหรือไม่ได้ทำประโยชน์จัดเก็บ 0.3-0.7% โดยให้คงอัตราเดิมออกไปอีกสักระยะหนึ่งจนกว่าเศรษฐกิจจะฟื้นตัวมากกว่านี้ และต่อไปต้องมีการทบทวนโครงสร้างภาษีใหม่ด้วย ส่วนจะกลับไปใช้ภาษีโรงเรือนและบำรุงท้องที่เหมือนเดิมนั้น คงไม่ง่าย

จี้ผ่อนปรนวีซ่าต่างชาติปลุกท่องเที่ยว

Advertisement

นายประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า อยากให้จัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว ยิ่งเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี ถ้าช้าจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจ เพราะเมื่อไม่มีความชัดเจน ทำให้ต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนชะลอการตัดสินใจ ส่วนนโยบายของพรรคเพื่อไทย เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 600 บาท ไม่ห่วง เพราะกว่าจะขึ้นเป็นในปี 2567 และต้องผ่านคณะกรรมไตรภาคี ขณะที่แต่ละพื้นที่ปรับขึ้นไม่เท่ากัน และปัจจุบันภาคก่อสร้างจ่ายค่าแรงเกินจากค่าแรงขั้นต่ำอยู่แล้ว

“อยากให้รัฐบาลใหม่ผลักดันภาคการท่องเที่ยวให้มากขึ้น เช่น ผ่อนปรนวีซ่าต่างชาติให้เข้ามาประเทศไทยได้ง่ายขึ้น เพราะเมื่อนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้นทำให้เศรษฐกิจและอสังหาฯดีขึ้นไปด้วย ส่วนการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท อยากให้ตรงกลุ่มเป้าหมายจริงๆ โดยเฉพาะคนที่มีรายได้น้อยมากกว่าแจกให้คนรวย” นายประทีปกล่าว

ลุ้นโฉมหน้านายกฯ-รัฐมนตรี

นายศานิต อรรถญาณสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การจัดตั้งรัฐบาลต้องจบในเดือนสิงหาคมนี้เพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้า ถ้าล่าช้าออกไปจะกระทบต่องบประมาณปี 2567 และการจัดทำงบประมาณใหม่ในปี 2568 ขณะนี้แม้จะยังไม่ลงตัวว่าจะมีกี่พรรคหรือกี่เสียง แต่มีแนวโน้มจัดตั้งได้ โดยพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำ แต่คงไม่เป็นที่พอใจทั้งหมด และคงเป็นรัฐบาลที่ไม่ค่อยเข้มแข็งมากนัก เพราะเป็นพรรคผสมข้ามขั้ว ขณะที่แต่ละพรรคที่มาร่วมรัฐบาลก็มีปัญหาภายในพรรคด้วย ส่วนผู้จะมาเป็นนายกรัฐมนตรีตอนนี้มีความไม่แน่ไม่นอน เดิมคิดว่าคุณเศรษฐาน่าจะใช่ แต่ตอนนี้อาจจะไม่ใช่ก็ได้ แต่ถ้าไม่ใช่คุณเศรษฐาก็คงมีตัวเลือกไม่มากนัก คือคุณแพทองธาร หรือคุณอนุทิน

“รอลุ้นโฉมหน้าผู้ที่มาเป็นนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรี รวมถึงทีมเศรษฐกิจ ถ้าดูดีคงลดทอนความไม่พอใจจากภาคประชาชนไปได้บ้าง ซึ่งตรงนี้เป็นสิ่งคำคัญ ต้องเลือกผู้มาเข้าร่วมในคณะรัฐมนตรีให้ดี เป็นที่ยอมรับ มีประสบการณ์ สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้“ นายศานิตกล่าว

เร่งแก้หนี้ดีกว่าแจกเงินหมื่น

นายศานิตกล่าวว่า ด้านนโยบายเศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยถือว่าพอรับได้ แต่ไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะนำเงินมาแจก 10,000 บาท น่าจะไปมุ่งแก้ปัญหาโครงสร้างหนี้ครัวเรือนมากกว่า เพราะได้ผลถึง 2 ต่อ คือ ลดหนี้สินของประชาชนและยังกระตุ้นกำลังซื้อได้ด้วย รวมถึงต้องกลับมากระตุ้นการส่งออกที่อ่อนแอให้ดีขึ้น ทำให้การท่องเที่ยวที่ปัจจุบันดีอยู่แล้วให้เติบโตต่อเนื่องสม่ำเสมอ ขณะเดียวกันต้องหาทางเพิ่มรายได้ เช่น เก็บภาษีลาภลอยจากการพัฒนาโครงสร้างคมนาคมพื้นฐานของรัฐ เช่น รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ทางด่วน เป็นต้น ส่วนภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างให้เก็บได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้านการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำก็ต้องทยอยปรับขึ้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image