บิ๊กตู่ ย้ำอีอีซีต้องจับมือกันให้แน่น ชมท่าเรือมาบตาพุดเฟส3 คืบตามแผน ลุ้นเสร็จปี’70

บิ๊กตู่ ย้ำอีอีซีต้องจับมือกันให้แน่น ชมท่าเรือมาบตาพุดเฟส3 คืบตามแผน ลุ้นเสร็จปี’70

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 ช่วงที่ 1 โดย กนอ. ได้รายงานความก้าวหน้าการก่อสร้างที่มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง คิดเป็นร้อยละ 58.42 ถือว่าคืบหน้าเป็นลำดับต้นๆ ของโครงการ EEC Project List ซึ่งสถานะปัจจุบันการก่อสร้างมีความก้าวหน้าในทุกๆ ด้าน อาทิ การก่อสร้างเขื่อนกันทราย ก้าวหน้าร้อยละ 70.93 งานขุดลอกถมทะเล ก้าวหน้าร้อยละ 60.89 และงานก่อสร้างเขื่อนกันคลื่น ก้าวหน้าร้อยละ 38.95 เป็นต้น

นอกจากนี้ โครงการฯ ยังสร้างการมีส่วนร่วมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยปฏิบัติตามมาตรการในรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมสำหรับโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการที่อาจมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขภาพ อนามัย คุณภาพชีวิตของประชาชนในชุมชนอย่างรุนแรง (Environmental and Health Impact Assessment: EHIA) อย่างเคร่งครัด

ทั้งนี้ กนอ. ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้น 3 คณะ โดยมีผู้แทนจากภาคประชาชน หน่วยงานราชการ หน่วยงานของโครงการที่เกี่ยวข้อง และสื่อมวลชน ร่วมเป็นคณะกรรมการเพื่อติดตามตรวจสอบผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ รวมถึงการชดเชยเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบด้วย ซึ่ง กนอ. จ่ายเงินชดเชยฯ ไปแล้วกว่า 934 ราย มูลค่า 93.4 ล้านบาท

Advertisement

รัฐบาลจัดทำแผนพัฒนาท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 สอดคล้องกับแผนปฏิบัติการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานภายในเขตพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (EEC Project) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความจุในการขนถ่ายก๊าซธรรมชาติและสินค้าเหลวของท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด รวมถึงรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมปิโตรเคมี ซึ่งเป็นการส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่ให้เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์เพื่อสร้างความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศที่อยู่ในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด

การพัฒนาโครงการท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด ระยะที่ 3 แบ่งออกเป็น 2 ช่วง ประกอบด้วย ช่วงที่ 1 การลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) และช่วงที่ 2 การพัฒนาพื้นที่ธุรกิจด้านพลังงาน (Superstructure) 500 ไร่ ประกอบด้วยท่าเทียบเรือก๊าซ พื้นที่ 200 ไร่ ท่าเรือสินค้าเหลว พื้นที่ 200 ไร่ คลังสินค้าและธุรกิจเกี่ยวข้อง พื้นที่ 150 ไร่ โดยคาดว่าโครงการช่วงที่ 1 จะดำเนินการแล้วเสร็จภายในปี 2570

Advertisement

“ท่านนายกฯ ชื่นชมการทำงานของ กนอ. ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจอุตสาหกรรมของประเทศ และสามารถดำเนินการได้ตามแผน ขอให้ทุกคนภาคภูมิใจที่ทำให้เกิดการพัฒนาขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ขณะเดียวกันยังเน้นย้ำเรื่องของความปลอดภัย การดูแลชุมชนและสิ่งแวดล้อมด้วย นอกจากนี้ ท่านนายกฯ ยังฝากด้วยว่า การพัฒนา EEC ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย โดยเฉพาะหน่วยงานในพื้นที่ ขอให้จับมือกันให้มั่น เพื่อสร้างเศรษฐกิจของประเทศให้แข็งแกร่ง” ผู้ว่าการ กนอ. กล่าวทิ้งท้าย

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image