บาทเปิดที่ 35.41 บาท/ดอลล์ ‘อ่อนลงเล็กน้อย’ คาดผันผวนหนักช่วงรับรู้บันทึกผลประชุมเฟด

บาทเปิดที่ 35.41 บาท/ดอลล์ ‘อ่อนค่าลงเล็กน้อย’ คาดผันผวนหนักช่วงรับรู้บันทึกผลประชุมเฟด

เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.41 บาทต่อดอลลาร์ อ่อนค่าลงเล็กน้อย จากระดับปิดวันก่อนหน้าที่ระดับ 35.39 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.30-35.55 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงก่อนรับรู้รายงานผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)ล่าสุด และมองกรอบเงินบาทในช่วง 35.20-35.70 บาทต่อดอลลาร์ ในช่วงทยอยรับรู้รายงานผลการประชุมเฟดล่าสุด

โดยในช่วงคืนก่อนหน้าค่าเงินบาทอ่อนค่าลงและมีการเคลื่อนไหวที่ผันผวนสูง (แกว่งตัวในช่วง 35.31-35.46 บาทต่อดอลลาร์) โดยมีจังหวะแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ หลังตลาด sell on fact รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด ขณะที่รายงานข้อมูลตลาดบ้านสหรัฐและดัชนีภาคการผลิตที่สำรวจโดยเฟดนิวยอร์กกลับออกมาแย่กว่าคาด

อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ก็พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หนุนโดยถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟดที่ยังคงออกมาสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อของเฟด รวมถึงความต้องการถือสินทรัพย์ปลอดภัย (Safe Haven) ในช่วงตลาดผันผวน

Advertisement

นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาทยังคงเผชิญแรงกดดันฝั่งอ่อนค่าต่อได้บ้าง หลังเงินดอลลาร์พลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นจากความไม่มั่นใจของผู้เล่นในตลาดต่อแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ส่วนราคาทองคำก็ยังคงแกว่งตัวใกล้โซนแนวรับสำคัญ ทำให้ผู้เล่นบางส่วนอาจทยอยเข้าซื้อทองคำในจังหวะย่อตัวได้ อย่างไรก็ดี โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทอาจเริ่มชะลอลงบ้าง หลังเราพบว่าผู้เล่นบางส่วนในตลาด โดยเฉพาะบรรดาผู้ส่งออก ต่างก็รอทยอยขายเงินดอลลาร์

ขณะที่แรงขายสินทรัพย์ไทยโดยนักลงทุนต่างชาติก็มีแนวโน้มชะลอลง หากการจัดตั้งรัฐบาลของไทยมีความชัดเจนมากขึ้น โดยประเมินโซน 35.50 บาทต่อดอลลาร์ เป็นโซนแนวต้านแรก และโซน 35.75 บาทต่อดอลลาร์ เป็นโซนแนวต้านถัดไป นอกจากนี้ เงินบาทอาจจบรอบการอ่อนค่าแถว 35.85-36.00 บาทต่อดอลลาร์ จากที่ได้ประเมินไว้ตั้งแต่วันที่ 28 มิถุนายน

อย่างไรก็ดี ในช่วงนี้ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูงจากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน ความกังวลแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน ทำให้เราคงคำแนะนำว่าผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

Advertisement

นายพูนกล่าวว่า ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์เคลื่อนไหวผันผวนหนักในช่วงตลาดทยอยรับรู้รายงานยอดค้าปลีกสหรัฐ รวมถึงถ้อยแถลงของเจ้าหน้าที่เฟด โดยมีทั้งจังหวะอ่อนค่าเร็ว ตามแรงขายทำกำไร ลักษณะ Sell on Fact จากรายงานยอดค้าปลีกที่ดีกว่าคาด ซึ่งส่วนหนึ่งก็ได้รับอานิสงส์จากยอดขายสินค้าออนไลน์ Amazon Prime Day

ก่อนที่เงินดอลลาร์จะพลิกกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังเจ้าหน้าที่เฟดยังคงส่งสัญญาณสนับสนุนการเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ รวมถึงภาวะปิดรับความเสี่ยงในตลาดการเงิน ก็ยังคงหนุนความต้องการถือเงินดอลลาร์เป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวขึ้นใกล้ระดับ 103.2 จุด (กรอบ 102.8-103.3 จุด)

สำหรับวันนี้ผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด ผ่านรายงานการประชุมเฟดล่าสุด (FOMC Meeting Minutes) ซึ่งจะรับรู้ในช่วงเวลาราว 1.00 น. ของเช้าวันพฤหัสบดีนี้ ตามเวลาในประเทศไทย คาดว่า เจ้าหน้าที่เฟดส่วนใหญ่ก็อาจยังสนับสนุนการใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดต่อ แต่ก็อาจระบุว่า เฟดนั้นเข้าใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของการขึ้นดอกเบี้ยได้เช่นกัน

นอกจากนี้ ในฝั่งอังกฤษตลาดจะรอลุ้นรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของอังกฤษ โดยนักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไป Headline CPI ของอังกฤษ เดือนกรกฎาคม อาจชะลอลงสู่ระดับ 6.8% จากระดับ 7.9% ในเดือนก่อนหน้า ตามการปรับตัวลดลงของราคาพลังงาน รวมถึงมาตรการคุมราคาแก๊สและค่าไฟฟ้า

แต่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI อาจชะลอลงเล็กน้อยสู่ระดับ 6.8% (จาก 6.9%) ทำให้เราประเมินว่า ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ยังมีความจำเป็นที่จะต้องเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่อง อีก 2 ครั้ง ครั้งละ 0.25% จบรอบการขึ้นดอกเบี้ยที่ระดับ 5.75%

“ส่วนในฝั่งไทยเรามองว่ายังคงต้องจับตาสถานการณ์การเมืองต่อ เพื่อประเมินแนวโน้มการจัดตั้งรัฐบาลผสมว่าจะมีทิศทางเป็นอย่างไร โดยตลาดการเงินไทยอาจกลับมาอยู่ในภาวะเปิดรับความเสี่ยงมากขึ้นได้ หากการจัดตั้งรัฐบาลผสมมีความชัดเจนมากขึ้น” นายพูนกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image