กรุงเทพประกันชีวิต Q2 เบี้ยรับปีแรก 1,324 ล้าน ช่องทางธนาคารแรงโต16%
นายโชน โสภณพนิช กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กรุงเทพประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ไตรมาส 2 ปี 2566 กรุงเทพประกันชีวิต มีเบี้ยประกันภัยรับปีแรกทั้งสิ้น 1,324 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเบี้ยประกันภัยรับปีแรกในช่องทางธนาคารเพิ่มขึ้น 16 % ขณะที่ช่องทางตัวแทนมีเบี้ยประกันภัยรับปีแรก ลดลง 10% สำหรับเบี้ยประกันภัยรวมในไตรมาส 2 ปี 2566 มีจำนวน 7,060 ล้านบาท ลดลง 6 % จากปีก่อนหน้า เนื่องจากเบี้ยประกันภัยรับปีต่อที่ลดลง โดย 6 เดือนแรกของปี 2566 บริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 15,856 ล้านบาท ลดลง 4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
บริษัทมีสินทรัพย์รวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2566 จำนวน 327,884 ล้านบาท ลดลงจากสิ้นปี 2565 ที่ 4.3% ทั้งนี้สินทรัพย์ลงทุนและเงินสดคิดเป็นสัดส่วน 97% ของสินทรัพย์รวม ในไตรมาส 2 ปี 2566 นี้ บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงาน 789 ล้านบาท ลดลง 34% จากไตรมาส 2 ปี 2565 และเพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบไตรมาสที่แล้ว ทางด้านความมั่นคงของฐานะทางการเงิน บริษัทมีระดับความเพียงพอของเงินกองทุน (Capital Adequacy Ratio – CAR) ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2566 ที่ระดับ 375 %
ในปี 2566 บริษัทยังคงดำเนินการตามทิศทางการดำเนินธุรกิจที่กำหนดไว้ใน 3 ปี คือ ปี 2565-2567 ในการเสริมสร้างความสามารถทางการแข่งขันของบริษัทเพื่อการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนในมิติต่าง ๆ ได้แก่
1. มิติด้านสุขภาพ ที่เน้นการบริการด้านสุขภาพที่เป็นเลิศ ทั้งผลิตภัณฑ์ประกันสุขภาพ เพรสทีจ เฮลธ์ (Prestige Health) แฮปปี้ เฮลธ์ (Happy Health) และ แวลู เฮลธ์ (Value Health) ตลอดจนการพัฒนาระบบนิเวศน์ด้านสุขภาพ (Health Ecosystem) ที่ได้รับความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง บริษัทได้จัดทำกิจกรรมการตลาดผ่านแคมเปญโฆษณาเพื่อสนับสนุนการทำตลาดประกันสุขภาพอย่างต่อเนื่อง
2. มิติด้านความมั่นคง เน้นตอบความต้องการของประชาชนทุกกลุ่มโดยเฉพาะแบบประกันประเภทสะสมทรัพย์และประกันควบการลงทุน สำหรับการวางแผนเพื่อเป้าหมายในชีวิตโดยมีที่ปรึกษาทางการเงินและระบบทำงานที่ตอบโจทย์เป้าหมายชัดเจน
3. มิติด้านดิจิทัล รองรับการก้าวสู่สังคมดิจิทัลในอนาคต โดยมีแอปพลิเคชันสำหรับลูกค้า BLA Happy Life App และ Bangkok Life GMC App เพื่ออำนวยความสะดวกในการทำธุรกรรมต่าง ๆ โดยมีการเชิญชวนให้ลูกค้าดาวน์โหลดแอป BLA Happy Life เพื่อความสะดวกในการใช้บริการและรับสิทธิประโยชน์สำหรับลูกค้า
4. มิติด้านการขาย การให้ความสำคัญในการพัฒนาคุณภาพของช่องทางขายซึ่งจะเน้นการพัฒนาและสร้างตัวแทนและที่ปรึกษาการเงินมืออาชีพ ควบคู่กับการสร้างความแข็งแกร่งในช่องทางธนาคารและพันธมิตรอย่างต่อเนื่อง
และ 5.มิติด้านความรับผิดต่อสังคมสิ่งแวดล้อม ผ่านการให้ความรู้ทางการด้านเงินเพื่อวางแผนชีวิตให้มั่นคง ความสัมพันธ์ที่ดีกับชุมชน นอกจากนี้ยังมุ่งมั่นขยายบทบาทในการช่วยเหลือสังคม และให้ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อม ด้วยจิตสำนึกการดูแลสิ่งแวดล้อมแก่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย