ตลาดการเงินรอลุ้นการโหวตเลือกนายกฯ คาดส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์-เงินบาทป่วนได้

ตลาดการเงินรอลุ้นการโหวตเลือกนายกฯ คาดส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์-เงินบาทป่วนได้

วันที่ 21 สิงหาคม นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.37 บาทต่อดอลลาร์ ทรงตัวไม่เปลี่ยนแปลงจากระดับปิดสัปดาหก่อนหน้า มองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 35.00-35.75 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.25-35.50 บาทต่อดอลลาร์

โดยนับตั้งแต่ช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนในกรอบ sideway (แกว่งตัวในกรอบ 35.33-35.44 บาทต่อดอลลาร์) ตามการเคลื่อนไหวของเงินดอลลาร์ที่ไม่ได้มีทิศทางอย่างชัดเจน ทั้งนี้เงินบาทก็มีจังหวะอ่อนค่าลงบ้าง ตามโฟลว์ธุรกรรมซื้อทองคำในจังหวะย่อตัว หลังราคาทองคำยังคงปรับตัวลดลงต่อเนื่อง

สัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์ยังคงแข็งค่าขึ้นต่อเนื่อง ตามมุมมองของผู้เล่นในตลาดที่เพิ่มโอกาสเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยและโอกาสที่เฟดจะคงดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นาน (Higher for Longer)

ADVERTISMENT

ในสัปดาห์นี้ ควรรอติดตามรายงานดัชนีภาคการผลิตและบริการ (PMI) ของประเทศเศรษฐกิจสำคัญ รวมถึงจับตาถ้อยแถลงของประธานเฟด ในงานสัมมนาวิชาการที่ Jackson Hole และรอลุ้น การโหวตเลือกนายกฯ ของไทยในวันที่ 22 สิงหาคมนี้

นายพูน กล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท เรามองว่า แม้ว่าโมเมนตัมการอ่อนค่าเริ่มแผ่วลงตามคาด แต่เงินบาทก็อาจผันผวนสูงในกรอบกว้าง เนื่องจากสถานการณ์การเมืองไทยอาจยังมีความไม่แน่นอน จนกว่าการโหวตเลือกนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลจะเสร็จสิ้นลง นอกจากนี้ ควรระวังความผันผวนจากฝั่งตลาดการเงินจีน ที่ยังคงเผชิญแรงกดดันจากปัญหาหนี้ภาคอสังหาฯ อนึ่ง เราประเมินแนวต้านแรกของเงินบาทแถวโซน 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนแนวรับแรกจะอยู่ในช่วง 35.20 บาทต่อดอลลาร์

ADVERTISMENT

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น อาจแกว่งตัว sideway หรือแข็งค่าขึ้นได้ หากตลาดยังอยู่ในภาวะปิดรับความเสี่ยง หรือตลาดยิ่งเชื่อว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อหรือคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับสูงได้นานกว่าคาด ซึ่งต้องจับตาทั้งรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ และถ้อยแถลงของประธานเฟด

“ช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและบรรยากาศในตลาดการเงินโลก ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน”นายพูน กล่าว

“ไฮไลท์สำคัญจะอยู่ที่การโหวตเลือกนายกฯ วันที่ 22 สิงหาคมนี้ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติและความผันผวนของเงินบาทได้อย่างมีนัยสำคัญ ในส่วนรายงานข้อมูลเศรษฐกิจ นักวิเคราะห์ต่างมองว่า เศรษฐกิจไทยอาจขยายตัวราว +1.2%q/q หรือ +3.0%y/y ในไตรมาสที่ 2 หนุนโดยการฟื้นตัวต่อเนื่องของการท่องเที่ยว ขณะที่ปัจจัยกดดันอาจมาจากการค้าระหว่างประเทศที่ซบเซา รวมถึงการลงทุนที่อาจชะลอลงมากขึ้นจากความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมือง”นายพูนกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image