‘พีระพันธุ์’ เต็งรัฐมนตรีพลังงานดอดตรวจพพ. หึ่งรื้อแผนพลังงานชาติ ทบทวนผลิตไฟฟ้า

‘พีระพันธุ์’ เต็งรัฐมนตรีพลังงานดอดตรวจพพ. หึ่งรัฐบาลใหม่รื้อแผนพลังงานชาติ จัดสรรผลิตไฟฟ้าใหม่

รายงานข่าวแจ้งว่า เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) ซึ่งมีรายชื่อจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานคนใหม่ ได้เดินทางเข้ากรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน(พพ.) กระทรวงพลังงาน โดยไม่มีการแจ้งผู้บริหารกรมล่วงหน้าซึ่งช่วงเวลาดังกล่าว นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน และ นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ อธิบดีพพ.ที่ถูกคาดหมายว่าจะเป็นปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ อยู่ระหว่างปฏิบัติภารกิจร่วมประชุมด้านพลังงานอยู่ที่ประเทศอินโดนีเซีย สำหรับการเยือนพพ.ของนายพีระพันธุ์ มีรายงานว่าได้เข้าตรวจบ้านพิบูลธรรมสร้างสมัยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว บ้านเก่าตามแบบสถาปัตยกรรมยุโรปที่มีชื่อเสียงซึ่งอยู่ในพื้นที่พพ. ปัจจุบันเป็นที่ทำงานของอธิบดีพพ.

รายงานข่าวระบุว่า พื้นที่ตั้งของพพ. ถนนพระรามที่ 1 เขตปทุมวัน ในอดีตเป็นที่ตั้งกระทรวงพลังงาน ก่อนกระทรวงพลังงานจะย้ายไปอยู่อาคารเอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ ถนนวิภาวดี ยกเว้นพพ.ยังอยู่ที่เดิม

รายงานข่าวระบุอีกว่า สำหรับกระทรวงพลังงาน ปัจจุบันผู้บริหารได้เตรียมเสนอแผนงานเร่งด่วนด้านพลังงานของประเทศต่อรัฐบาลชุดใหม่ อาทิ แผนพลังงานชาติ ซึ่งเป็นแผนใหญ่ ซึ่งมี 5 แผนหลัก คือ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ(พีดีพี) แผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก แผนอนุรักษ์พลังงาน แผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง ซึ่งแผนพลังงานแห่งชาติเดิมมีกำหนดเดินหน้าแล้ว แต่เมื่อยุบสภา ทำให้ต้องเลื่อนการประกาศใช้ออกไป ล่าสุดมีรายงานว่ารัฐบาลชุดใหม่จะเข้ามารื้อแผนดังกล่าว โดยเฉพาะพีดีพีที่มีการกำหนดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าทั้งเชื้อเพลิงฟอสซิลและพลังงานหมุนเวียน

Advertisement

รายงานข่าวระบุว่า อีกแผนงานสำคัญของกระทรวงพลังงาน คือ การผลักดันเทคโนโลยีการดักจับ กักเก็บและใช้ประโยชน์คาร์บอน หรือ CCUS ปัจจัยสำคัญที่จะผลักดันประเทศไทยไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี 2050 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ภายในปี 2065 และการเดินหน้าธุรกิจใหม่ อาทิ การผลิต sustainable aviation fuel หรือ SAF หรือ ไบโอเจ็ต(น้ำมันอากาศยานแบบยั่งยืน) นอกจากนี้ยังมาตรการส่งเสริมยานยนต์ไฟฟ้า(มาตรการอีวี)3.5 โดยคณะกรรมกายานยนต์ไฟฟ้าแห่งชาติ (บอร์ดอีวี) ที่มีกระทรวงพลังงานและกระทรวงอุตสาหกรรมเป็นเลขานุการร่วม โดยกระทรวงพลังงานมีภารกิจผลักดันสถานีชาร์จอีวีโครงสร้างพื้นฐานสำคัญที่ผลักดันให้ไทยเป็นฐานการผลิตยานยนต์ไฟฟ้าของโลก

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image