จอดป้ายประชาชื่น : วัดฝีมือผลไม้ไทยส่งนอกเพิ่ม

จอดป้ายประชาชื่น : วัดฝีมือผลไม้ไทยส่งนอกเพิ่ม

ขณะนี้ประเทศไทยมี นายเศรษฐา ทวีสินเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 อย่างเป็นทางการแล้ว แต่รัฐมนตรีประจำกระทรวงต่างๆ ยังไม่ลงตัว คงต้องลุ้นกันต่อไปว่าหน้าตาคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในยุคของนายเศรษฐาจะหน้าตาคล้ายเดิมหรือไม่ และไม่ว่าจะเป็นใครเข้ามาก็มีสารพัดปัญหารอวัดกึ๋นว่าที่รัฐบาลชุดใหม่ ชนิดที่ว่าเลือกแก้กันไม่ถูกเลยทีเดียว

หนึ่งในเรื่องสำคัญนั้นคือ การส่งเสริมภาคเกษตรของไทย ไม่ว่าจะผ่านมากี่ยุคสมัยยังประสบปัญหาเดิมๆ คือ สินค้าล้นตลาด ราคาตกต่ำ ล่าสุด นายประยูร อินสกุล ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) และผู้แทนหน่วยงานกระทรวง ในพื้นที่ภาคใต้ ประกอบด้วย จ.นครศรีธรรมราช สุราษฎร์ธานี ชุมพร ระนอง และสงขลา ถึงแนวทางการขยายช่องทางการกระจายผลผลิตมังคุดภาคใต้ที่จะออกสู่ตลาด ประมาณ 11,200 ตัน ในเดือนกันยายนนี้

เรื่องนี้เกษตรและสหกรณ์จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้แจ้งแผนงานรองรับในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน 2566 ได้แก่ 1.รณรงค์ให้เกษตรกรรวมกลุ่มทั้งทางการและไม่เป็นทางการ 2.คัดเกรดมังคุด 3.ประสานงานกับสำนักงานพาณิชย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการนำล้งไปรับซื้อมังคุดที่กลุ่มเกษตรกร และ 4.จำหน่ายสินค้าผ่านทางออนไลน์

Advertisement

นอกจากนี้ กระทรวงได้ขอความร่วมมือสมาคมผู้ประกอบการพืชผักผลไม้ไทย ช่วยเพิ่มปริมาณการส่งออกไปยังต่างประเทศเพิ่มจากเดิมให้มากขึ้น เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้ทันเวลา ซึ่งในมุมของเกษตรกรและผู้ประกอบการในพื้นที่ ต่างมีความคิดเห็นไปทางเดียวกันว่ารัฐบาลต้องเข้ามาจัดการพื้นที่ในการปลูก รวมถึงหาตลาดใหม่ๆ ที่มีความต้องการผลไม้ที่หลากหลาย เพราะเมื่อถึงหน้าผลไม้ไม่ได้มีแค่มังคุดเพียงอย่างเดียวที่มีโอกาสล้นตลาด

ดังนั้น เรื่องการทำข้อตกลงทางการค้า (เอฟทีเอ) กับประเทศใหม่ๆ จึงควรถูกบรรจุเป็นเรื่องเร่งด่วนที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องเร่งดำเนินการ

เพื่อช่วยเหลือในเกษตรกรให้มีทางเลือกทางการค้าที่หลากหลายมากขึ้น บนเงื่อนไขประชาชนในประเทศต้องได้ซื้อผลไม้ในราคาที่เหมาะสมด้วยเช่นกัน

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image