คิดเห็นแชร์ : กนอ.ปลูก เพื่อ ลด สู่อนาคตที่ยั่งยืน

คิดเห็นแชร์ : กนอ.ปลูก เพื่อ ลด สู่อนาคตที่ยั่งยืน

สวัสดีครับแฟนๆ คอลัมน์ “คิด เห็น แชร์” เดือนนี้ผมอยากจะชวนทุกท่านคุยเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศของโลกกันครับ

เนื่องจากช่วงนี้ฤดูกาลเปลี่ยนแปลงจากฤดูร้อนเข้าสู่ฤดูฝน แต่ถึงแม้จะมีฝนตกทั่วไปในทุกภูมิภาคของประเทศ เราก็จะสังเกตได้ว่าอุณหภูมิทั่วไปยังค่อนข้างสูงอยู่มาก อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์และก๊าซเรือนกระจกออกสู่ชั้นบรรยากาศของพวกเรา

การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) ตระหนักถึงผลกระทบจากภาวะโลกร้อนเป็นอย่างดี จึงมีการดำเนินโครงการต่างๆ เพื่อนำไปสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ในปี พ.ศ.2593 และปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero Emission) ภายในปี พ.ศ.2608 เพื่อรักษาอุณหภูมิเฉลี่ยของโลกให้เพิ่มขึ้นไม่เกิน 1.5-2 องศาเซลเซียส

Advertisement

ทั้งนี้ กิจกรรมที่ กนอ.ดำเนินการต่อเนื่องเป็นปีที่สองแล้ว คือ “กิจกรรม ปลูก เพื่อ ลด สู่อนาคตที่ยั่งยืน Let’s Zero Together” โดยกิจกรรมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อขยายพื้นที่สีเขียว เพิ่มศักยภาพในการกักเก็บและลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง

โดยในปี 2566 นี้ กนอ.จัดกิจกรรมปลูกป่าชายเลน โดยดำเนินการปลูกต้นโกงกางและต้นแสมขาว จำนวน 10,000 ต้น บนพื้นที่จำนวน 10 ไร่ ณ ศูนย์ศึกษาธรรมชาติกองทัพบก (บางปู) เฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา มหาราชินี จังหวัดสมุทรปราการ โดยมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมประมาณ 600 คน ประกอบด้วย พันธมิตรของ กนอ. ได้แก่ ผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม ผู้ประกอบการในพื้นที่นิคมอุตสาหกรรมบางปู คู่ค้าของ กนอ. หน่วยงานราชการท้องถิ่นในจังหวัดสมุทรปราการ ชุมชนโดยรอบนิคมอุตสาหกรรมบางปู สื่อมวลชน ผู้บริหาร และพนักงาน กนอ.

ซึ่งการปลูกป่าในครั้งนี้จะสามารถช่วยกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ได้ประมาณ 27.5 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี รวมถึงช่วยในการสร้างความหลากหลายทางชีวภาพในระบบนิเวศ เพิ่มชนิดพันธุ์สิ่งมีชีวิต และยังเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจของสัตว์ทะเลให้มีมูลค่าเพิ่มสูงขึ้น

Advertisement

นอกจากที่ กนอ.ได้ดำเนินกิจกรรมปลูกป่าชายเลน ณ สถานตากอากาศบางปูแล้ว เรายังชักชวนผู้พัฒนานิคมอุตสาหกรรม และผู้ประกอบการในนิคมอุตสาหกรรมต่างๆ มาร่วมกันปลูกป่าในพื้นที่ของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น ร่วมปลูกต้นไม้กว่า 14,000 ต้น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมอมตะ คอร์ปอเรชั่น ได้ร่วมปลูกต้นไม้ 1,600 ต้น กลุ่มบริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ร่วมกับนิคมอุตสาหกรรมแหลมฉบัง 600 ต้น กลุ่มนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุด คอมเพล็กซ์ 4,700 ต้น นิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ 400 ต้น นิคมอุตสาหกรรมภาคใต้ 150 ต้น นิคมอุตสาหกรรมราชบุรี 150 ต้น นิคมอุตสาหกรรมสินสาคร 150 ต้น นิคมอุตสาหกรรมนครหลวง 125 ต้น นิคมอุตสาหกรรมบางปะอิน 150 ต้น นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง 99 ต้น นิคมอุตสาหกรรมเกตเวย์ซิตี้ 600 ต้น นิคมอุตสาหกรรมทีเอฟดี 600 ต้น และนิคมอุตสาหกรรมไฮเทค 300 ต้น

ทั้งนี้ กิจกรรมปลูกต้นไม้พร้อมกันทั่วประเทศในครั้งนี้ สามารถปลูกต้นไม้ได้รวมทั้งสิ้น 33,874 ต้น เมื่อต้นไม้โตเต็มที่สามารถคิดคำนวณปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ดูดซับได้ประมาณ 315 ตันคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่าต่อปี

ในส่วนของปี 2565 ที่ผ่านมานั้น กนอ.และพันธมิตร ก็ดำเนินการในลักษณะนี้ และสามารถลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ผ่าน 4 กิจกรรมหลัก คือ 1.การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน โดยการปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ต่างๆ ภายในระบบสาธารณูปโภคของ กนอ. 2.การจัดกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการเครือข่ายก๊าซเรือนกระจก ซึ่งมีผู้ประกอบการเข้าร่วม 110 โรงงาน 3.การใช้ปูนซีเมนต์ไฮดรอลิกในการก่อสร้างโครงการนิคมอุตสาหกรรม Smart Park และ 4.กิจกรรมปลูกป่า ปลูก เพื่อ ลด สู่อนาคตที่ยั่งยืน Let’s Zero Together ณ นิคมอุตสาหกรรม Smart Park

อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ กนอ.ดำเนินกิจกรรมดังเช่นที่ผ่านมา แต่พยายามเพิ่มความเข้มข้นในการลดคาร์บอนให้ได้มากขึ้น และในปีต่อๆ ไป เราจะดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อที่จะลดคาร์บอนให้ได้เพิ่มขึ้นทุกปี

กนอ.ตระหนักดีว่าการแก้ปัญหาโลกร้อน เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญของภาคอุตสาหกรรมไทย กนอ.จึงได้ตั้งเป้าลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกในพื้นที่การทำงานของหน่วยงานให้ได้ 2.5 ล้านกิโลกรัมคาร์บอนไดออกไซด์เทียบเท่า ภายใน 5 ปี (พ.ศ.2564-2568) และมุ่งมั่นในการขยายเครือข่ายความร่วมมือลดก๊าซเรือนกระจกไปสู่โรงงานในนิคมอุตสาหกรรมด้วย

การกำหนดนโยบายดำเนินธุรกิจโดยมุ่งเน้นในการสร้างสมดุลทางธรรมชาติ และการดำเนินโครงการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ เป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ก่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน ในอนาคตอันใกล้นี้ เราคงจะเห็นการดำเนินกิจกรรมที่ผู้ประกอบการการนำคาร์บอนเครดิต ไปใช้แลกเปลี่ยนซื้อขายในกระดานเทรด และใช้เพื่อประกอบการขอลดกำแพงภาษีด้านคาร์บอนทั้งในและต่างประเทศ

ในการนี้ ผมขอเชิญชวนพี่น้องประชาชน ร่วมกันปลูกต้นไม้ในพื้นที่บ้านของท่าน เพื่อลดคาร์บอนไดออกไซด์ เพิ่มความร่มรื่นชุ่มชื้นให้ระบบนิเวศสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเรา ปลูก เพื่อ ลด สู่อนาคตที่ยั่งยืนไปด้วยกันครับ

ดร.วีริศ อัมระปาล
ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.)

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image