‘ครม.’ไฟเขียวนำเข้าถั่วเหลืองเสรีครั้งละ3ปีไม่จำกัดปริมาณ

นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ว่า ครม.มีมติเห็นชอบให้เปิดตลาดเสรีนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองภายใต้กรอบองค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ) คราวละ 3 ปี (ปี 2560-2562) ไม่จำกัดปริมาณ อัตราภาษีนำเข้า 0% โดยมีการบริหารนำเข้าปีต่อปี ตลอดจนเปิดตลาดเสรีนำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองภายใต้กรอบการค้าอื่น ได้แก่ เขตการค้าเสรีอาเซียน (อาฟต้า) เขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) และข้อตกลงความร่วมมือระหว่างประเทศลุ่มแม่น้ำอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (แอ็กเมกส์) ให้เป็นไปตามข้อผูกพัน โดยให้บริหารการนำเข้าเช่นเดียวกับกรอบดับเบิลยูทีโอ โดยคณะกรรมการพืชน้ำมันและน้ำมันพืชเป็นผู้กำหนดแนวทางและมาตรการบริหารการนำเข้า นอกจากนี้ยังเห็นชอบเปิดตลาดน้ำมันถั่วเหลือง มะพร้าว เนื้อมะพร้าวแห้ง และน้ำมันมะพร้าว คราวละ 3 ปี ภายใต้กรอบดับเบิลยูทีโอเช่นกัน สำหรับกรอบการค้าอื่นทั้งอาฟต้าและเอฟทีเอให้เป็นไปตามข้อผูกพัน

นายณัฐพรกล่าวว่า สำหรับผู้มีสิทธินำเข้ามี 8 สมาคม และ 16 บริษัท และเพื่อให้กระทรวงพาณิชย์สามารถดำเนินการออกประกาศที่เกี่ยวข้องกับพืชน้ำมันได้ต่อเนื่อง ซึ่งจะช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถวางแผนการผลิตและการตลาดล่วงหน้าที่เกิดประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมในภาพรวม โดยจะกำหนดราคารับซื้อผลผลิตเมล็ดถั่วเหลืองในประเทศเพิ่มขึ้นอีกกิโลกรัม (กก.) ละ 2 บาท กล่าวคือ ถั่วเหลืองชนิดสกัดน้ำมันราคารับซื้อ ณ ไร่นา 17.50 บาท/กก. ถั่วเหลืองอาหารสัตว์ 17.75 บาท/กก. และถั่วเหลืองแปรรูปเป็นอาหาร 19.75 บาท/กก.

“ในที่ประชุม ครม. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กรมศุลกากรกวดขันดูแลการลักลอบนำเข้ามะพร้าวที่ส่งผลกระทบเรื่องราคาผลผลิตในประเทศ และการระบาดของโรคศัตรูพืช ทั้งนี้ มติดังกล่าวยังถือว่าสอดรับกับนโยบายส่งเสริมเกษตรแปลงใหญ่ที่ร่วมมือกับภาคเอกชน 5 ราย ดำเนินการในปี 2559-2560 โดยนำร่องใน 5 จังหวัด เนื้อที่ 1,900 ไร่ อย่างไรก็ตาม การต่อมาตรการการเปิดเสรีครั้งนี้เป็นเพราะผลการผลิตจากการปลูกถั่วเหลืองในประเทศแต่ละปีมีเพียง 5-6 หมื่นตัน และต้องมีการนำเข้า 2.6 ล้านตัน ถึงแม้การปลูกถั่วเหลืองจะให้ผลผลิตไม่ดีเท่ากับการปลูกในประเทศสหรัฐอเมริกา บราซิล แต่มีข้อดีในเรื่องของผลผลิตที่ไม่ได้เป็นจีเอ็มโอ ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาด และรัฐบาลได้เน้นย้ำว่าถึงแม้จะมีการเปิดเสรีนำเข้า แต่ผู้มีสิทธินำเข้าต้องรับซื้อผลผลิตในประเทศก่อน ในราคาที่ไม่ต่ำกว่าที่กำหนดไว้” นายณัฐพรกล่าว

 

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image