AWC พลิกโฉม ‘เอ็มไพร์ทาวเวอร์’ สู่ออฟฟิศระดับโลก แหล่งแฮงค์เอาท์แห่งใหม่
หลังจากต้นปี 2566 ประกาศทุ่มเงิน 1,000 ล้านบาท พลิกโฉม “อาคารเอ็มไพร์” ใจกลางสาทร ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานและพื้นที่รีเทลให้เช่า สูง 58 ชั้น มีพื้นที่เช่า 158,021 ตารางเมตร มูลค่าทรัพย์สิน 20,000 ล้านบาท ให้ดูทันสมัย ไฉไล ภายใต้คอนเซ็ปต์ Co-Living Collective: Empower Future
ไฮไลต์พื้นที่ Co-Living Space เป็นพื้นที่ส่วนกลางที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่ 1,500 ตารางเมตร ให้บรรยากาศเหมือนอยู่บ้าน ไม่ว่า พื้นที่เตรียมอาหาร นั่งเล่น รับประทานอาหาร ประชุม พักผ่อนหย่อนใจ เสริมสร้างสุขภาพ ห้องอาบน้ำ พื้นที่ทำงานร่วมกัน และห้องประชุม พร้อมระบบการจองล่วงหน้า
ยังมีEA (เอ-ยา) Rooftop จุดหมายด้านอาหารและเครื่องดื่มบนยอดตึกแห่งใหม่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยพื้นที่กว่า 8,460 ตารางเมตร แหล่งรวมร้านอาหารนานาชาติบนชั้น 55-58 สามารถเทควิวได้ 360 องศา
พร้อมผนวกบริการจากโรงแรมกับสิทธิประโยชน์และข้อเสนอแบบครบวงจรผ่านแอพพลิเคชั่น AWC Infinite Lifestyle (AWI) ไม่ว่าจะเป็น บริการคอนเซียร์จ และบริการรูมเซอร์วิสต่างๆ เป็นสิทธิพิเศษมอบให้กับลูกค้า และการบริการเวลเนสครบวงจร
ล่าสุด “วัลลภา ไตรโสรัส” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แอสเสท เวิรด์ คอร์ป จำกัด (มหาชน) หรือ AWC อัพเดตว่า การปรับพื้นที่จะทยอยแล้วเสร็จพร้อมเปิดบริการในเดือนธันวาคมนี้ เป็นอาคารสำนักงานที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทุกรูปแบบและเป็นแลนด์มาร์กรองรับนักท่องเที่ยวที่จะเข้ามาปลายปี 2566 และรับเทศกาลฉลองปีใหม่ 2567 พอดี
ด้านผู้เช่าพื้นที่ “วัลลภา” บอกว่า ปัจจุบันมีผู้เข้ามาใช้บริการประมาณ 20,000 คนต่อวัน มีผู้เช่าพื้นที่กว่า 70% ส่วนใหญ่เป็นบริษัทข้ามชาติ อีก 25% เป็นบริษัทธุรกิจด้านไอที ล่าสุดบริษัท ทูซีทูพี(ประเทศไทย) จำกัด(2C2P) ผู้พัฒนาและให้บริการระบบการชำระเงินครบวงจรได้เช่าพื้นที่กว่า 3,000 ตารางเมตร เปิดสำนักงานแห่งใหม่ รองรับพนักงานกว่า 300 คน เปิดเป็นทางการในเดือนมกราคม 2567
ด้าน “ปิยชาติ รัตน์ประสาทพร” ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ทูซีทูพี(ประเทศไทย) จำกัด เล่าว่าการที่บริษัทตัดสินใจเช่าพื้นที่อาคารเอ็มไพร์เพราะอยู่ใกล้รถไฟฟ้าเดินทางสะดวก มีที่จอดรถให้พร้อม อีกทั้งต้องการพื้นที่มีความทันสมัย และหลังธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดทำให้พื้นที่ไม่เพียงพอ ในช่วงที่ผ่านมาต้องให้พนักงานทำงานที่บ้าน 20%
นอกจากเปิดบ้านต้อนรับร่วมกับ2C2P แล้วAWC ยังได้ร่วมกับ2C2P พัฒนาแอพพลิเคชั่น ชื่อว่า Pikul(พิกุล) ในการพัฒนาช่องทางการชำระเงิน e-wallet และ prepaid-card แพลตฟอร์มการชำระเงินที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับ Pikul โดยเฉพาะ เพื่อเสริมศักยภาพและประสบการณ์การใช้ AWC Infinite Lifestyle
โดย”วัลลภา” ตั้งเป้าจะเริ่มต้นใช้กับธุรกิจในเครือAWC ก่อนปลายปี2566 และในปี 2567 จะขยายไปยังกลุ่มทั่วไปและขยายไปถึงการสร้างประสบการณ์การรับบริการระหว่างเครือข่ายลูกค้ากว่า 600 ล้านรายทั่วโลก ให้สามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร สิทธิประโยชน์การเดินทาง จองเที่ยวบิน ที่พัก โปรโมชัน ในเครือ AWC ผ่านแพลตฟอร์มแอพพ์ Pikul
“ปัจจุบันนักท่องเที่ยวไม่คอยพกเงินสดและบัตรเครดิต ทุกวันนี้ทุกอย่างใช้จ่ายด้วยการสแกนผ่านมือถือหมด ไม่ว่าจะจองโรงแรมหรือซื้อสินค้า เราจึงทำแอพพ์พิกุลมารองรับตรงนี้ ซึ่งAWC มีลูกค้าจองห้องพักในเครือ 4 ล้านคนต่อปี(2 คนต่อห้อง) เราอยากเห็น Pikul เป็นส่วนหนึ่งช่วยเสริมโมเดลของการท่องเที่ยว ตอบโจทย์ลูกค้าเรา เพราะลูกค้าเราตอนนี้อยู่บนออนไลน์ ซึ่ง Pikul เป็นจุดเชื่อมบริการ การทำธุรกรรมการชำระเงินอิเล็กทรอนิกส์ไม่ยุ่งยากและง่ายขึ้น” วัลลภาย้ำภาพ
พร้อมเฉลยที่มาของชื่อ “Pikul” มาจากชื่อดอกไม้ มีความเป็นไทย มีความโชคดี มีความสุข และสิริมลคลหลายอย่าง ซึ่งตอน IPO ก็เรียกชื่อนี้ ออกเสียงง่าย สื่อถึงความเป็นไทยด้วย จึงใช้ชื่อนี้
“AWC อยากให้เอ็มไพร์เป็นอาคารสำนักงานระดับสากลที่รวมบริษัทชั้นนำระดับโลก พร้อมด้วยเครือข่ายดิจิทัล สร้างอีโคซิสเต็มที่ตอบโจทย์การเติบโตทางธุรกิจ ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของทุกคน ผ่านโมเดลรูปแบบใหม่ Co-Living ทั้งออฟไลน์และออนไลน์”วัลลภากล่าวทิ้งท้าย