‘นายกฯนิด’ ถกผู้ว่าแบงก์ชาติ เดินเครื่องเงินดิจิทัล 1 หมื่น อุบแหล่งทุน 5.6 แสนล้าน ขณะที่กองสลากเด้งรับออกสลากกุศลเพื่อการศึกษา
เมื่อวันที่ 7 กันยายนที่ผ่านมา ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงที่มาของแหล่งเงินที่จะใช้สำหรับนโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ตามที่พรรค พท.ใช้เป็นนโยบายหาเสียงเลือกตั้งว่า ที่ผ่านมาได้พูดคุยกับหลายภาคส่วน ขณะนี้อยู่ระหว่างการขับเคลื่อนงบประมาณว่าเงินจะมาจากไหน เมื่อวันที่ 6 กันยายนที่ผ่านมาก็ได้พูดคุยกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ให้ข้อคิดมาหลายเรื่อง โดยให้คำแนะนำว่าถ้าจะออกดิจิทัลวอลเล็ต ในระยะกลางและระยะยาวของประเทศ ระบบการเงินการคลังของประเทศจะเป็นลักษณะไหน
“อย่างเช่น ตัวเลขหนี้สาธารณะจะขึ้นจะลงอย่างไร ท่านเห็นด้วยว่าเป็นเรื่องที่ดีแต่จะต้องมีการพูดคุยให้เกิดความชัดเจน ไม่อยากให้มีการพูดกันไปหลายอย่าง วันนี้ขอทำการบ้านให้ดีก่อน อย่าลืมว่าวันนี้ผมยังไม่สามารถเข้าบริหารงานได้ ต้องรอการแถลงนโยบายต่อรัฐสภาถึงจะสั่งการได้ ขอให้เป็นเรื่องระหว่างการพูดคุยและเก็บข้อมูลก่อน ขอร้องว่าอย่าพูดให้เกิดความสับสน วันนี้ข้อมูลมาจากหลายภาคส่วน” นายเศรษฐากล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า จะเป็นลักษณะการออกพันธบัตรเพื่อระดมทุน 5.6 แสนล้านบาทนำมาใช้ในนโยบายนี้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า ขอให้ใจเย็น ไม่อยากจะตอบแล้วสื่อนำไปเขียนกัน จนเกิดความเข้าใจผิด มีหลายส่วนที่สามารถทำได้
เมื่อถามย้ำว่า การจ่ายเงินจะเป็นลักษณะบล็อกเชนใช่หรือไม่ นายเศรษฐาตอบว่า เป็นบล็อกเชนแน่นอน
เมื่อถามย้ำว่าแม้วิธีการหาเงินยังไม่สรุปแต่ยืนยันว่าโครงการดังกล่าวจะเดินหน้าได้ในไตรมาสแรกปี 2567 เหมือนที่เคยระบุไว้หรือไม่ นายเศรษฐากล่าวว่า “ใช่ครับ แน่นอนครับ”
วันเดียวกัน พ.ท.หนุน ศันสนาคม ผู้อำนวยการสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เปิดเผยกรณีนายกรัฐมนตรีเรียกตัวแทนสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลเข้าพบเพื่อหารือเกี่ยวกับสลากเพื่อการกุศล (สลากเพื่อความเสมอภาค) เพื่อระดมทุนสนับสนุนการศึกษาของไทยนั้น ทางสำนักงานสลากฯได้มอบหมายตัวแทนเข้าไปพูดคุยกับนายเศรษฐาเรียบร้อยแล้ว พร้อมเดินหน้านโยบายตามรัฐบาล ส่วนสลากเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษาดำเนินการได้ทันที ภายใต้พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การพนัน ที่นำเงินจากการจำหน่ายสลากไปดำเนินโครงการตามนโยบายของรัฐบาล อาศัยอำนาจของ ครม.ไม่ต้องส่งเข้าคลัง
อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ครม.ได้อนุมัติกรอบให้หน่วยงานต่างๆ ออกสลากการกุศลในวงเงินรวม 1 หมื่นล้านบาท แบ่งมาจากสลากปกติงวดละ 11 ล้านใบ ในระยะเวลาประมาณ 2 ปี 6 เดือน จะสิ้นสุดกลางปี 2567 ปัจจุบันมี 16 โครงการที่ได้รับอนุมัติ
ขณะที่ นายธนวรรธน์ พลวิชัย กรรมการและโฆษกของคณะกรรมการ (บอร์ด) สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กล่าวกรณีรัฐบาลจะออกสลากการกุศล เพื่อเพิ่มรายได้ของรัฐบาลว่า ต้องแยกก่อนว่าเงินทุกอย่างจะอยู่ในระบบของเงินงบประมาณ ในส่วนของเงินงบประมาณแผ่นดิน เป็นส่วนที่รัฐบาลวางแผนไว้แล้วว่าจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ดังนั้น การออกสลากการกุศลเปรียบเสมือนการโอนเงินจากสลากกินแบ่งรัฐบาลที่จะต้องโอนให้รัฐ 23% นั้น ถูกโอนให้องค์กรและหน่วยงานการกุศลแทน เป็นการใช้วงเงินรัฐบาลเหมือนกัน เพียงแต่การใช้แนวทางของมติ ครม.
