| ผู้เขียน | ปิยะวรรณ ผลเจริญ |
|---|
ประเทศไทยไม่มีแหล่งปิโตรเลียมขนาดใหญ่แต่พยายามพึ่งพาตัวเองมาตลอด หลายปีที่ผ่านมาผลิตก๊าซธรรมชาติใช้เองในสัดส่วน 70% ของความต้องการในประเทศ อีก 30% แบ่งเป็นนำเข้าก๊าซธรรมชาติจากประเทศเมียนมา 15% ที่เหลืออีก 15% นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว หรือแอลเอ็นจี
ปัจจุบันความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติในประเทศเพิ่มสูงขึ้นตามการขยายตัวทางภาคเศรษฐกิจ แต่การผลิตก๊าซของไทยทยอยลดลง ปัจจุบันเหลือ 50% ทางรอดจึงต้องนำเข้าแอลเอ็นจีเพิ่ม
แต่ราคาแอลเอ็นจีแพงกว่าก๊าซธรรมชาติ แม้จะมีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) สั่งลดค่าไฟ แต่หลายคนอาจกังวลว่าราคาปลายปีนี้จะปรับเพิ่มขึ้นเหมือนปี 2565 จากประเด็นอัตราการผลิตก๊าซธรรมชาติแหล่งก๊าซเอราวัณ (แปลง จี1/61) ที่เคยผลิตได้ถึง 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แต่ปัจจุบันผลิตลดน้อยลงเป็นผลจากการเปลี่ยนผู้รับสัมปทาน
ล่าสุด คาดว่าเดือนธันวาคมนี้ จะผลิตไม่ถึง 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตามที่คาดการณ์ ทำให้พานกังวลว่าเดือนเมษายน 2567 อาจไม่ถึง 800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ตามที่ประกาศไว้
เรื่องนี้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอธิบายถึงสาเหตุว่า การผลิตไม่ถึง 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เกิดจากเรือยกแท่นเหล็กเพื่อติดตั้งบนหลุมผลิตเกิดรอยร้าวจุดสำคัญที่กลไกการยก จึงเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุ เสียหาย จำเป็นต้องจัดหาเรือลำใหม่ยกแท่นและติดตั้งแท่น ซึ่งกระบวนการและขั้นตอนปฏิบัติงานจำเป็นต้องใช้เวลาเป็นเดือน จึงเป็นเหตุผลทำให้แหล่งก๊าซเอราวัณผลิตไม่ถึง 600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน
อย่างไรก็ตาม กรมได้บริหารสถานการณ์ดังกล่าวด้วยการจัดหาก๊าซธรรมชาติเพิ่มเติมจากแหล่งที่มีศักยภาพในประเทศไทย ได้แก่ เพิ่มกำลังผลิตในแปลง จี 2/61 หรือแหล่งบงกช อีก 130 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพิ่มกำลังผลิตก๊าซจากแหล่งอาทิตย์อีก 60 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ได้ก๊าซธรรมชาติระดับใกล้เคียง 200 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ที่แหล่งเอราวัณผลิตไม่ได้ วิธีนี้ทำให้ไม่ต้องนำเข้าแอลเอ็นจีมาทดแทน และยังช่วยดูแลต้นทุนการผลิตไฟฟ้าด้วย
ไม่เพียงเท่านี้ กรมยังชี้แจงว่าได้ประสานงานกับแหล่งก๊าซยาดานา ประเทศเมียนมา ให้รักษากำลังผลิตให้นานที่สุด และเลื่อนแผนลดกำลังการผลิตออกไปก่อน รวมทั้งประสานจัดหาก๊าซธรรมชาติจากพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย หรือเจดีเอ ขอให้ส่งก๊าซช่วงที่มาเลเซียใช้ไม่มากมาไทย
จากแผนการดึงก๊าซจากทุกทิศมาทดแทนการผลิตที่หายไปจากเหตุสุดวิสัย…ก็หวังว่าทุกอย่างจะราบรื่น เพื่อประโยชน์คนไทยทุกคน
