ตลาดรอลุ้นผลประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ กดดันเงินบาทยังไม่กลับมาแข็งค่าชัดเจน

ตลาดรอลุ้นผลประชุมเฟดในสัปดาห์นี้ กดดันเงินบาทยังไม่กลับมาแข็งค่าชัดเจน

เมื่อวันที่ 19 กันยายน นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ ที่ระดับ 35.67 บาทต่อดอลลาร์ แข็งค่าขึ้นจากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 35.72 บาทต่อดอลลาร์ มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 35.60-35.80 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนก่อนหน้า ค่าเงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น (แกว่งตัวในช่วง 35.65-35.76 บาทต่อดอลลาร์) ตามการอ่อนค่าลงของเงินดอลลาร์ และการรีบาวด์ขึ้นของราคาทองคำ (ซึ่งได้แรงหนุนจากการย่อตัวลงของทั้งบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐ และเงินดอลลาร์) นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดบางส่วนอาจทยอยขายทำกำไรสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) บ้าง ก่อนรับรู้ผลการประชุม FOMC ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้

นายพูนกล่าวว่า สำหรับแนวโน้มของค่าเงินบาท ผู้เล่นในตลาดอาจยังไม่รีบปรับสถานะถือครองก่อนจะรับรู้ผลการประชุม FOMC ทำให้เงินบาทมีโอกาสแกว่งตัว sideway ในกรอบ อย่างไรก็ดี ปัจจัยกดดันเงินบาทฝั่งอ่อนค่ายังคงมีอยู่ โดยเฉพาะแรงขายสินทรัพย์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ ซึ่งสวนทางกับคาดการณ์ที่มองว่านักลงทุนต่างชาติจะทยอยกลับเข้ามาซื้อสินทรัพย์ไทยมากขึ้น หลังรับรู้ผลการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ของไทย

ทั้งนี้ เงินบาทก็อาจไม่ได้อ่อนค่าไปมาก ในช่วงก่อนรับรู้ผลการประชุม FOMC โดยผู้เล่นในตลาดบางส่วนที่ถือสถานะ Short THB (มองเงินบาทอ่อนค่า) ก็อาจรอจังหวะขายทำกำไรออกมาบ้าง ทำให้เราประเมินแนวต้านเงินบาทอาจยังไม่เกินโซน 35.80 บาทต่อดอลลาร์ และเนื่องจากประเมินว่าเงินบาทอาจยังไม่สามารถกลับมาแข็งค่าได้ชัดเจน จนกว่าจะรับรู้ผลการประชุม FOMC ทำให้หากเงินบาทแข็งค่าขึ้นบ้าง ก็อาจติดอยู่แถวโซนแนวรับ 35.50-35.60 บาทต่อดอลลาร์

Advertisement

“ทุกสินทรัพย์ยังอยู่ในช่วงเผชิญความผันผวนสูง จากทั้งความไม่แน่นอนของทิศทางนโยบายการเงิน การฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน แนะนำผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option และการเลือกทำธุรกรรมในสกุลเงินท้องถิ่น (Local Currency) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน ผู้ประกอบการควรเปรียบเทียบต้นทุนในการทำธุรกรรมและแผนการป้องกันความเสี่ยงก่อนตัดสินใจทุกครั้ง” นายพูนกล่าว

นายพูนกล่าวว่า ทางด้านตลาดค่าเงิน เงินดอลลาร์อ่อนค่าลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ตามแรงขายทำกำไรสถานะ Long USD ก่อนที่ผู้เล่นในตลาดจะรับรู้ผลการประชุมเฟด นอกจากนี้ การย่อตัวลงบ้างของบอนด์ยีลด์ 10 ปี สหรัฐ ก็มีส่วนกดดันให้เงินดอลลาร์ย่อตัวลงบ้าง ทำให้โดยรวมดัชนีเงินดอลลาร์ (DXY) ปรับตัวลงใกล้ระดับ 105 จุด (กรอบ 105-105.4 จุด)

ทั้งนี้ สำหรับวันนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI ของยูโรโซนว่าจะมีความแตกต่างจากตัวเลขคาดการณ์ก่อนหน้าหรือไม่ โดยหากอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI ของยูโรโซน ยังคงอยู่ในระดับสูงกว่า 5.3% ก็อาจสะท้อนว่าธนาคารกลางยุโรป (ECB) ยังมีโอกาสเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยได้ ถ้าจำเป็น ทั้งนี้ มองว่า ECB อาจจบรอบการขึ้นดอกเบี้ยแล้ว เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจมีแนวโน้มชะลอตัวลงมากขึ้น ซึ่งอาจส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อทยอยชะลอตัวลงกลับสู่เป้าหมายได้ในที่สุด

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image