เงินบาทแตะระดับอ่อนค่าสุดในรอบ 3 เดือนครั้งใหม่

ศูนย์วิจัยกสิกรไทยสรุปความเคลื่อนไหวของค่าเงินบาทว่าเงินบาทอ่อนค่าสุดในรอบ3เดือนครั้งใหม่ที่36.39 บาทต่อดอลลาร์ฯ สอดคล้องกับทิศทางการอ่อนค่าของสกุลเงินส่วนใหญ่ในเอเชีย (ยกเว้น เงินเยน) ท่ามกลางความกังวลต่อสถานการณ์ที่ผันผวนของตลาดการเงินจีน ถึงแม้ทางการจีนจะเข้ามาดูแลการเคลื่อนไหวของเงินหยวนมากขึ้นแล้วก็ตาม นอกจากนี้ การอ่อนค่าของเงินบาท ยังสอดคล้องกับสถานะขายสุทธิในตลาดหุ้นไทย และกระแสการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของนักลงทุนทั่วโลกด้วยเช่นกัน ทั้งนี้ ข้อมูลการค้าของจีนที่ออกมาดีกว่าที่ตลาดคาด สามารถหนุนทิศทางสกุลเงินในภูมิภาคได้แค่เพียงช่วงสั้นๆ ในช่วงกลางสัปดาห์เท่านั้น

สำหรับในวันศุกร์ (15 ม.ค.) เงินบาทอยู่ที่ 36.35 บาทต่อดอลลาร์ฯ เทียบกับระดับ 36.29 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันพุธก่อนหน้า (8 ม.ค.)

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ม.ค.) ธนาคารกสิกรไทยประเมินกรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 36.20-36.50 บาท/ดอลลาร์ฯ โดยอาจต้องจับตาสถานการณ์ของตลาดการเงินและข้อมูลเศรษฐกิจจีน อาทิ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/58 และตัวเลขผลผลิตอุตสาหกรรม ยอดค้าปลีกในเดือนธ.ค. ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัย ดัชนีกิจกรรมการผลิตของเฟดสาขาฟิลาเดลเฟีย ดัชนี PMI ภาคการผลิต (ขั้นต้น) เดือนม.ค. ดัชนีราคาผู้บริโภค ยอดขายบ้านมือสอง ข้อมูลการเริ่มสร้างบ้านและการอนุญาตก่อสร้างเดือนธ.ค. ส่วนประเด็นสำคัญของไทยในระหว่างสัปดาห์ จะเป็นการเดินทางมาตรวจและประเมินผลการดำเนินการแก้ไขปัญหา IUU Fishing ของสหภาพยุโรป อนึ่ง ตลาดการเงินสหรัฐฯ จะปิดทำการในวันจันทร์เนื่องในวัน มาร์ติน ลูเธอร์คิง จูเนียร์

ส่วนความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทย ดัชนี SET ร่วงลงช่วงปลายสัปดาห์ จากแรงฉุดของราคาน้ำมันโลกที่ดิ่งลง โดยดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,245.85 จุด เพิ่มขึ้น 0.13% จากสัปดาห์ก่อน มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันเพิ่มขึ้น 14.89% จากสัปดาห์ก่อน มาที่ 46,934.20 ล้านบาท ส่วนตลาดหลักทรัพย์ MAI ปิดที่ 501.08 จุด ลดลง 0.92% จากสัปดาห์ก่อน

Advertisement

ตลาดหุ้นไทยปรับลดลงในวันจันทร์ จากความกังวลเกี่ยวกับสภาวะตลาดหุ้นจีน ก่อนที่จะฟื้นตัวในช่วงกลางสัปดาห์ นำโดยแรงซื้อกลับในหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากที่ราคาปรับลดลงแรงช่วงก่อนหน้า จากนั้น ตลาดหุ้นไทยร่วงลงอีกครั้งในช่วงปลายสัปดาห์ โดยได้รับแรงฉุดจากราคาน้ำมันในตลาดโลกที่ปรับลดลงต่ำกว่าระดับ 30ดอลลาร์ฯ/บาร์เรล หลังการรายงานปริมาณน้ำมันคงคลังของสหรัฐฯที่เพิ่มขึ้นมาก

สำหรับสัปดาห์ถัดไป (18-22 ม.ค.) บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด มองว่า ดัชนีมีแนวรับที่ 1,220 และ 1,205 จุด ขณะที่ แนวต้านอยู่ที่ 1,260 และ 1,275 จุด ตามลำดับ โดยปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คงได้แก่ การเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในตลาดโลก และการรายงานผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนไตรมาส 4/58 สำหรับเครื่องชี้เศรษฐกิจสหรัฐฯ อาทิ เครื่องชี้ภาคอสังหาริมทรัพย์ ดัชนีราคาผู้บริโภค และ ดัชนี PMI โดย Markit ส่วนเครื่องชี้เศรษฐกิจของประเทศจีนที่น่าสนใจ ได้แก่ ตัวเลขผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน ยอดค้าปลีกจีน และจีดีพีไตรมาส 4/58

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image