อสังหา ชี้ “เศรษฐา” ดูดทั่วโลกลงทุน ปลุกประเทศไทยขึ้นแท่น “เสือเศรษฐกิจ” แซงเวียดนาม

อสังหา ชี้ “เศรษฐา” ดูดทั่วโลกลงทุน ปลุกประเทศไทยขึ้นแท่น “เสือเศรษฐกิจ” แซงเวียดนาม

เมื่อวันที่ 24 กันยายน นายณัฐพงศ์ คุณากรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC กล่าวถึงภาพรวมเศรษฐกิจช่วง 3 เดือนที่เหลือของปี 2566 ว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายความไม่ชัดเจนการเมืองหายไปแล้ว และเห็นการทำงานของรัฐบาลอย่างตั้งใจ มุ่งมั่น ดูจากที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เดินทางไปประชุมและคุยกับนักธุรกิจที่ต่างประเทศ ทำให้ความเชื่อมั่นของคนเพิ่มขึ้น และบรรยากาศก็เริ่มดีขึ้นด้วย

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า ส่วนมาตรการกระตุ้นที่รัฐบาลทยอยออกมาจะสำเร็จหรือไม่ยังเร็วไปที่จะตอบ แต่คิดว่าควิกวินหรือนโยบายระยะสั้นที่รัฐบาลออกมา ถือว่ารวดเร็วทันใจ ทั้งให้ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน หรือนโนยบายต่างๆที่จะออกมาอีก

“ช่วงต้นปีมีปัจจัยบวกเรื่องเดียว คือ การท่องเที่ยวที่ดีขึ้นหลังเปิดประเทศ เริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามา แต่ปัจจัยลบยังเยอะ พอมาช่วงปลายปี มีปัจจัยบวกเพิ่มขึ้น คือ ความชัดเจนทางการเมือง นโยบายที่กำลังจะออกมา แต่ปัจจัยลบเรื่องหนี้ครัวเรือนสูง ต้นทุนสูง อัตราดอกเบี้ยสูง ยังคงอยู่ แต่ปีหน้าดอกเบี้ยน่าจะทรงตัว ไม่เหวี่ยงมาก จะเห็นเศรษฐกิจโลกเติบโต”นายณัฐพงศ์กล่าว

นายณัฐพงศ์กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจของไทย เริ่มมีความหวัง จากนโยบายรัฐที่ออกมา แก้ปัญหาค่าครองชีพ ลดค่าไฟ ค่าพลังงาน แต่ที่ดีขึ้นแน่ๆ คือ การท่องเที่ยวเครื่องยนต์เดิมซึ่งดีอยู่แล้วจะดีขึ้นอีก จากนโยบายฟรีวีซ่า และสิ่งที่จะตามมาเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ก็น่าสนใจ จึงมองว่าเศรษฐกิจปี 2567จะดีกว่าปี 2566 โดยมั่นใจรัฐบาลชุดนี้ นำโดยนายเศรษฐา แม้จะเพิ่งเริ่มงาน แต่เห็นความคืบหน้าหลายอย่างที่น่าสนใจและขอเป็นกำลังใจให้

Advertisement

นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงการผลักดันเศรษฐกิจของประเทศเข้าสู่เกียร์สูงของนายเศรษฐา ทวีสินว่า เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยในขณะนี้ต้องใส่เกียร์เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินไปข้างหน้าให้เร็วที่สุด จากนโยบายควิกวิน ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ไม่ว่าลดค่าไฟ ค่าพลังงาน ให้ฟรีวีซ่า แจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ที่รัฐบาลทยอยออกมา โดยเชื่อว่าจะทำให้เงินหมุนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจและจะเริ่มดีขึ้นตั้งแต่ไตรมาส4ของปีนี้ไปถึงกลางปี 2567 แต่ก็เป็นห่วงว่าทีมงานจะตามนโยบายนายกรัฐมนตรีไม่ทัน

นายชนินทร์กล่าวว่า ทั้งนี้เครื่องยนต์กระตุ้นเศรษฐกิจทุกตัว ต้องขับเคลื่อนไปพร้อมๆ กัน นอกจากภาคการท่องเที่ยวที่จะดีขึ้นจากนโยบายฟรีวีซ่า ทำให้รายได้เข้าประเทศแล้ว การเดินหน้าลงทุนเมกะโปรเจ็กต์ด้านอินฟราสตรัคเจอร์ เช่น สนามบิน ท่าเรือ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง ในพื้นที่หัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว รวมถึงสานต่อการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี) โดยทำเป็นปฎิบัติการเร่งด่วนหรือAction Plan จะทำให้เกิดความเชื่อมั่นและดึงนักลงทุนต่างชาติเข้ามาได้มากขึ้น นอกจากยังมีธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ จะเป็นอีกเครื่องยนต์ที่ช่วยขับเคลื่อนจีดีพีของประเทศได้เช่นกัน

“การที่นายกรัฐมนตรีไปประชุมต่างประเทศและดึงนักลงทุนจากทั่วโลกเข้ามาลงทุนในไทย เช่น เทสลา ไมโครซอฟท์ กูเกิล ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีต่อเศรษฐกิจ ทำให้กระเตื้องขึ้น ถือว่านายกรัฐมนตรีมีแนวคิดด้านธุรกิจและเข้าใจเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก เพื่อดึงเงินจากต่างชาติมาลงทุน จะทำให้ไทยกลับมาเป็นเสือเศรษฐกิจของเอเชีย แซงหน้าเวียดนามได้”นายชนินทร์กล่าว

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image