ค้าปลีก-ร้านอาหาร จ่อชง ‘เศรษฐา’ปลดล็อกโซนนิ่งห้ามขายแอลกอฮอล์-ปิดผับบาร์ตี4

แฟ้มภาพ

ค้าปลีก-ร้านอาหาร จ่อชง ‘เศรษฐา’ปลดล็อกโซนนิ่งห้ามขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์-ปิดผับ บาร์ตี4

เมื่อวันที่ 27 กันยายน นายธนากร คุปตจิตต์ ที่ปรึกษาสมาคมธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไทย เปิดเผย มติชน ว่า สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรี(ครม.)เมื่อวันที่ 13 กันยายน 2566 ในมีการทบทวนประกาศ คำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) และคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ยังคงมีผลใช้บังคับในปัจจุบัน และในวันที่ 14 กันยายน ได้ออกหนังสือเวียนถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวนความจำเป็น เหมาะสมของประกาศ คสช. และคำสั่งห้ามฉบับต่างๆ ที่ยังคงมีผลบังคับใช้ในปัจจุบัน ซึ่งหากประกาศหรือคำสั่งใดสมควรให้คงมีผลบังคับใช้ต่อไปหรือสมควรยกเลิก ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา นำเสนอครม.พิจารณาโดยด่วนภายในวันที่ 9 ตุลาคม 2566 นั้น ในส่วนของภาคเอกชนในกลุ่มอุตสาหกรรมต่างๆ มีการหารือในมติครม.ดังกล่าว ซึ่งในส่วนของ พ.ร.บ.ควบคุมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ นั้น ได้รับการประสานจากสมาคมศูนย์การค้าไทย และสมาคมผู้ประกอบการร้านอาหาร ว่าทางสมาคมกำลังจัดทำหนังสือถึงสำนักงานนายกรัฐมนตรี ก่อนต้นเดือนตุลาคมนี้ เพื่อขอให้ทบทวน 3 เรื่องหลัก ได้แก่ เรื่องแรก ทบทวนโซนนิ่ง ห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์บริเวณรอบสถานศึกษาและสถานที่บังคับต่างๆ เพราะยังมีพื้นที่เหลื่อมล้ำและสภาพแวดล้อมในปัจจุบันเปลี่ยนแปลงไป

นายธนากร กล่าวว่า เรื่องที่สอง พิจารณายกเลิกเวลาห้ามจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเวลา 14.00-17.00 น. และเรื่องสาม พิจารณาขยายเวลาปิดการให้บริการของสถานบันเทิง โรงแรม ร้านอาหารที่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ แยกเป็น 2 ส่วนคือ ปิดบริการ 04.00 น.(ตีสี่) ในแหล่งท่องเที่ยวหรือชุมชน ที่มีนักท่องเที่ยวใช้บริการจำนวนมาก และขยายเวลาปิด 02.00 น. (ตีสอง) ในแหล่งสถานบันเทิงทั่วไปหรือในโรงแรมหรือที่พักอาศัยตามแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งในสองส่วนนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป และสอดรับกับนโยบายรัฐบาลในการกระตุ้นภาคท่องเที่ยว และซอฟต์เพาเวอร์ โดยเฉพาะด้านอาหาร อย่าง Food Pairing (ฟู้ด-แพริ่ง) หรือการจับคู่ไวน์กับอาหาร เป็นความนิยมบริโภคของนักท่องเที่ยวในหลายประเทศ

“ซึ่งจะไปสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลที่ยังเดินหน้าสนับสนุนเรื่องสุราก้าวหน้า ที่จะมีส่วนสำคัฐต่อการฟื้นฟูเศรษฐกิจฐานราก และรัฐบาลเศรษฐา 1 ก็ได้มีการตั้งคณะกรรมการผลักดันเรื่องซอฟต์เพาเวอร์ ที่มีคุณแพทองธาร ชินวัตร ประธานดูแลโดยตรง เชื่อว่าจะผลักดันซอฟต์เพาเวอร์ในทุกมิติ ถือเป็นเรื่องที่ดี รวมกับตอนนี้ได้เริ่มวีซ่าฟรีให้กับนักท่องเที่ยวจีนและคาซัคสถาน แล้ว ก็จะมีจำนวนนักท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น ต่อไปก็เชื่อว่าจะขยายวีซ่าฟรีกับชาติอื่นๆ ด้วยปัจจัยต่างๆ ผู้ประกอบการมองว่ารัฐบาลควรเร่งทบทวนและปลดล็อก 3 เรื่องที่ได้ร้องขอมาตลอด อย่างไรก็ตาม ผู้ประกอบการยังเห็นด้วยในการปลดล็อกไปพร้อมกับความเข้มงวดควบคุมความปลอดภัยที่อาจเกิดจากการดริงก์และห้ามเยาวชนเข้าสถานบันเทิงหรือแหล่งที่มีจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์” นายธนากร กล่าว

Advertisement

นายธนากร กล่าวถึงการค้าขายธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ว่า ตอนนี้การค้ายังไม่ดีเท่าที่ควร เนื่องจากเข้าฤดูฝน อยู่ในช่วงเข้าพรรษา และที่ผ่านมาจำนวนนักท่องเที่ยวยังน้อยกว่าคาด แต่เชื่อว่าปัจจัยหนุนมาตรการวีซ่าฟรี จะส่งผลดีตั้งแต่เดือนตุลาคม รวมถึงภาคเหนือเพิ่มบิน 24 ชั่วโมงในเดือนพฤศจิกายน และเข้าเทศกาลเตรียมรับปีใหม่ 2567 หากรวมกับการปลดล็อก 3 เรื่องที่ผู้ประกอบการร้องขอ จะเป็นส่วนผลักดันภาคบริการ ภาคท่องเที่ยว และเศรษฐกิจ

“ส่วนกลุ่มเครือข่ายผู้ประกอบการร้านบันเทิงกลางคืน เครือข่ายแอลกอฮอล์ และอาชีพที่เกี่ยวข้อง เดิมได้นัดประชุมกันไว้กลางเดือนตุลาคม จึงไม่ทันที่จะทำหนังสือในรอบนี้ แต่ทุกฝ่ายก็พร้อมเข้าพบนายกรัฐมนตรีและทีมงาน เพื่อได้หารือกันถึงประเด็นข้อเสนอทั้ง 3 เรื่องหลัก ซึ่งได้มีการเสนอกันมาตลอดตั้งแต่รัฐบาลชุดก่อน พรรคการเมืองในช่วงหาเสียง ก็หวังว่าเมื่อ ครม.มีมติให้เร่งทบทวนก็จะเห็นความคืบหน้า” นายธนากร กล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image