‘อนันดา’ พลิกเกมวิกฤตแอชตัน-หุ้นกู้ อัดแคมเปญใหญ่ ขนคอนโดพันยูนิตลดราคา กำเงินสด เติมสภาพคล่อง

‘อนันดา’ พลิกเกมวิกฤตแอชตัน-หุ้นกู้ อัดแคมเปญใหญ่ ขนคอนโดพันยูนิตลดราคา กำเงินสด เติมสภาพคล่อง

วันที่ 27 กันยายน นายประเสริฐ แต่ดุลยสาธิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์เริ่มฟื้นตัวจากสัญญาณบวกของการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของไทย จึงมองว่าในช่วงไตรมาส 4 ปี 2566 จะดีขึ้น ซึ่งในส่วนของอนันดาแม้จะมีวิกฤตแอชตันอโศก แต่ก็สามารถก้าวข้ามมาได้ โดยในรอบ 8 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ส.ค.) ทั้งยอดโอนและยอดขายยังคงเติบโต เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2565 โดยมียอดโอน 8,587 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 28% และยอดขาย 12,903 ล้านบาท เติบโต 55% ทำให้ปรับเป้าโอนปี 2566 เพิ่มจาก 13,000 ล้านบาท เป็น 16,000 ล้านบาท และตั้งเป้าปี 2567 อนันดาจะมีกำไรและกลับมาเทิร์นอราวด์

นายประเสริฐกล่าวว่า โดยได้พลิกเกมใหม่เพิ่มน้ำหนักพัฒนาโครงการแนวราบระดับไฮเอนด์มากขึ้น เพื่อสร้างการรับรู้ให้เร็วขึ้น เนื่องจากคอนโดมิเนียมยังมีสต๊อกอยู่ร่วม 20,000 ล้านบาท พร้อมกันนี้เพื่อลดภาระหนี้เงินกู้ ในช่วงที่ดอกเบี้ยสูงขึ้นมาก รวมถึงตลาดหุ้นกู้คนเริ่มไม่ค่อยมั่นใจ ทำให้การโรลโอเวอร์ยาก และอยู่ในระหว่างแก้ปัญหาแอชตันอโศก เพื่อเร่งรับรู้รายได้ รักษาสภาพคล่อง เพิ่มกระแสเงินสดจากปัจจุบันมีอยู่ 4,823 ล้านบาท สำหรับรองรับสถานการณ์ที่อาจคุมไม่ได้ จึงได้จัดแคมเปญลดราคาครั้งใหญ่ เพื่อให้มีรายได้เข้ามาในไตรมาสสุดท้ายนี้ เพราะบรษัทมีหุ้นกู้ครบกำหนดชำระอยู่ 700 ล้านบาท และปี 2567 ยังมีอีก 2 ล็อต ในไตรมาส 1 อีก 3,826 ล้านบาท และไตรมาส 3 อีก 3,200 ล้านบาท

Advertisement

นายประเสริฐกล่าวว่า โดยแคมเปญดังกล่าว ได้ตัดล็อตสต๊อกพร้อมอยู่มีอยู่ทั้งหมด 29,200 ล้านบาท นำคอนโดพร้อมอยู่พร้อมโอนแนวรถไฟฟ้า 27 โครงการ จำนวน 1,100 ยูนิต ราคาเฉลี่ย 6-7 ล้านบาท จัดแคมเปญ “แด๊ดดี้ สั่งลด” ลดราคาครั้งใหญ่ 10-30% ตลอดไตรมาส 4 นี้ ตั้งเป้ามีรายได้ 7,337 ล้านบาท ขณะนี้มียอดขาย บิ๊กล็อตตั้งแต่ 10 ยูนิตขึ้นไป จากชาวจีนและชาวไทยแล้ว 1,000 ล้านบาท ในจำนวนนี้ 30-40% เป็นยอดขายจากต่างชาติ โดยวันที่ 6-8 ตุลาคมนี้ จะจัดอีเวนต์ใหญ่ที่สยามพารากอน และมั่นใจจะมีรายได้ตามเป้า และปิดการขายคอนโดมิเนียมได้ 4 โครงการ ได้แก่ ไอดีโอ จุฬา-สามย่าน, ไอดีโอ จรัญ 70 ริเวอร์วิว, เอลลิโอ เดล เนสท์ และคิว ประสานมิตรติด มศว.

นายประเสริฐกล่าวว่า ส่วนปี 2567 ยังมีสต๊อกจะสร้างเสร็จ 16,336 ล้านบาท จะรับรู้รายได้ เช่น ไอดีโอ สุขุมวิท-พระราม 4 มูลค่า 3,225 ล้านบาท รวมถึงจะเปิดโครงการใหม่ 4-8 โครงการ มูลค่าประมาณ 10,000-20,000 ล้านบาท เพิ่มน้ำหนักแนวราบมากขึ้นเป็น 3-4 โครงการ เป็นบ้านระดับลักชัวรี่ ซึ่งไตรมาส 4 นี้จะเปิดพรีเซลโครงการ แอริ สุขุมวิท-บางนา กม.5 มูลค่า 890 ล้านบาท เป็นบ้านเดี่ยวราคา 10-20 ล้านบาท และแกรนด์โอเพ่นนิ่งไตรมาส 1 ปี 2567

นายประเสริฐกล่าวว่า ส่วนคอนโดมิเนียมอยู่ระหว่างทำแผน โดยมีที่ดินรอพัฒนา 4 แปลง คิดเป็นมูลค่า 10,000 ล้านบาท ได้แก่ สะพานควาย ท่องหล่อ พระราม 4 และสามย่าน เนื่องจากตลาดคอนโดยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ โดยเฉพาะระดับราคา 3-5 ล้านบาท เป็นตลาดแมสที่มียอดถูกปฏิเสธสินเชื่อสูง ขณะเดียวกันยังต้องการดีมานด์ต่างชาติที่ต้องการซื้อเป็นบ้านหลังที่ 2 โดยเฉพาะชาวจีนเป็นลูกค้าหลัก แต่ถึงขณะนี้ยังหวังไม่ได้มาก เพราะจีนยังมีปัญหาเศรษฐกิจภายในประเทศ ปัจจุบันที่มาซื้อจะเป็นจีนที่อาศัยอยู่นอกประเทศเช่น จีนฮ่องกง ไต้หวัน พม่า เป็นต้น

Advertisement

“ต้องยอมรับว่าต่างชาติเป็นดีมานด์ถาวรของอสังหาไทย ซึ่งเร็วๆ นี้อนันดาจะไปโรดโชว์ที่ฮ่องกง ไต้หวัน สิงคโปร์ เพื่อทำตลาดต่างชาติ เช่น ลูกค้าพม่า ซึ่ง 8 เดือนที่ผ่านมา เรามียอดโอนต่างชาติ 1,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 179% และยอดขาย 5,093 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 251%” นายประเสริฐกล่าว

นายประเสริฐยังกล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ปัญหาแอชตันอโศกว่า ต้องหยุดและจำกัดความเสียหายให้อยู่แค่นี้ และก้าวข้ามมันให้ได้ ปัจจุบันเดินหน้าแก้ปัญหาพร้อมกันทั้ง 5 แนวทาง ทั้งเจรจาเจ้าของที่ดินโดยรอบ เพื่อซื้อที่ดิน ทำทางเข้า-ออกยื่นขออนุญาตใหม่ รวมถึงหารือกรุงเทพมหานคร (กทม.) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) แก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และประสานเจ้าของที่เดิมให้ยื่นทบทวนการใช้สิทธิที่ดินทางเข้า-ออกจาก รฟม. โดยขณะนี้หาเจ้าเดิมเจอแล้วอยู่ระหว่างหารือข้อกฎหมายร่วมกับทีมกฎหมาย นอกจากนี้ ยังได้หารือทีมกับรัฐบาลชุดใหม่ให้รับรู้ถึงปัญหาทั้งหมดแล้วเช่นกัน

นายประเสริฐกล่าวว่า มีข้อเสนอรัฐบาลขับเคลื่อนธุรกิจอสังหาฯ เพื่อกระตุ้นจีดีพีของประเทศ ซึ่งคาดหวังนายกรัฐมนตรีมาจากธุรกิจอสังหาฯจะมองเห็นปัญหาของตลาด โดยมาตรการระยะสั้นยกเลิก LTV ชั่วคราว เพื่อแก้ปัญหากู้แบงก์ไม่ผ่านของตลาดกลาง-ล่าง และมาตรการระยะยาวกระตุ้นดีมานด์ต่างชาติมีผลต่อการขับเคลื่อนอสังหาฯไทย 10-15% เช่น ขยายโควต้าซื้อคอนโดฯได้มากกว่า 49% แต่ไม่เกิน 70% ซื้อบ้านพร้อมที่ดินในโครงการจัดสรรได้ 49% ขยายการเช่าเป็น 50 ปีในที่ดินลีสโฮลด์ วางโครงสร้างด้านภาษีเก็บสูงกว่าคนไทย เป็นต้น

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image