นายสุวิทย์เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้หารือกับภาคเอกชนรายใหญ่ถึงสถานการณ์การส่งออกในปี59 โดยภาคเอกชนได้แจงแผนในการผลักดันการส่งออกให้เพิ่มขึ้นจากเดิมที่คาดเอกชนคาดการณ์ไว้ขยายตัวสูงสุดที่ 2.2% จากปี 57 เป็นสูงสุดในระดับ 3% ดังนั้น ทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลได้ขอความร่วมมือให้ภาคเอกชนกลับไปหารือในการผลักดันส่งออกขยายตัวได้ตามเป้าหมายที่รัฐบาลกำหนดไว้5% ใหม่
โดยรัฐบาลพร้อมจะสนับสนุนมาตรการต่างๆ ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกและการขยายตลาดสินค้าท เบื้องต้น เอกชนรับปากที่จะกลับไปจัดทำแผนให้กระทรวงพาณิชย์รับทราบก่อนนำเสนอให้นายสมคิดจาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี รับทราบต่อไป
ทั้งนี้ ทางภาคเอกชนบอกว่าการเพิ่มเป้าหมายส่งออกในปี59 จาก 2.2%เป็น 3%นั้น ต้องการให้รัฐบาลเร่งขายข้าวในสต็อกรัฐบาลแบบรัฐต่อรัฐ(จีทูจี) เพิ่มขึ้น เพราะยังมีหลายตลาดที่สนใจข้าวไทยรวมถึงการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรทั้งข้าว มันสำปะหลัง ยางพาราและปาล์มน้ำมันหากสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มได้ก็จะช่วยผลักดันยอดการส่งออกในภาพรวมให้ดีขึ้นได้” นอกจากนี้ทางภาคเอกชนเสนอที่จะมีการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน หรือกกร. ในแต่ละประเทศที่จะไปเจาะตลาด เพื่อนำข้อมูลจากการประชุมของ กกร.มาประเมินสถานการณ์การลงทุน, การค้า, การทำตลาดสินค้า และปัญหาต่างในการนำเสนอให้รัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือและอำนวยความสะดวก โดยการตั้งกกร.เน้นกลุ่มประเทศซีแอลเอ็มวีเป็นหลักก่อนเพราะตลาดเป้าหมายที่รัฐบาลต้องการจะเร่งการส่งออกให้เติบโตในตลาดนี้ส่วนสถานที่ โดยเบื้องต้นน่าจะใช้สำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศหรือทูตพาณิชย์ในประเทศนั้นๆ