ลูกสาวเจ้าสัวเจริญ ทุ่ม 5 หมื่นล้าน เดินหน้าเมกะโปรเจ็กต์ ‘พัทยา-เชียงใหม่’ ปั้นฮับท่องเที่ยวโลก
เมื่อการท่องเที่ยวเริ่มฟื้นตัว จึงทำให้ภาคธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงการเต็มสูบ
หนึ่งในดีเวลลอปเปอร์อสังหาเพื่อการท่องเที่ยวที่ไม่ว่าจะขยับจับอะไร ย่อมเป็นที่สนใจ และสร้างแรงกระเพื่อมไม่มากก็น้อย นั่นคือ “AWC” หรือบริษัท แอสเสทเวิรด์ คอร์ป จำกัด(มหาชน)
มี “วัลลภา ไตรโสรัส” ลูกสาวคนที่2 ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี คุมเกมบุกธุรกิจบริหารพอร์ตโรงแรม ศูนย์การค้า สำนักงาน ค้าส่ง มีมูลค่ากว่า 1.4 แสนล้านบาท
วันนี้ “AWC” ภายใต้ปีกของทายาทเจ้าสัวเจริญ ครบรอบ 4 ปี ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ติดป้ายชื่อมหาชนและมีรายได้เติบโตตามดัชนีการท่องเที่ยว ล่าสุดในปี 2566 โตพุ่งกว่า 10% จากปี 2565 มีรายได้รวมกว่า 1.4 หมื่นล้านบาท แซงหน้าก่อนมีโควิด
โดย ณ มิถุนายน มีรายได้รวมแล้ว 6,795.25 ล้านบาท และกำไร 2,626.39 ล้านบาท โดยธุรกิจโรงแรมยังโดดเด่น รองมาเป็นธุรกิจอสังหาฯเชิงพาณิชย์และอาคารสำนักงาน
ด้านการลงทุนสยายปีกธุรกิจ ตั้งเป้า 5 ปี นับจากปี 2566-2570 ใช้เงินลงทุนกว่า 1 แสนล้านบาท โดยใช้ 6 หมื่นล้านบาท สำหรับการพัฒนาโครการของบริษัท และอีก 4 หมื่นล้านบาทในการเข้าซื้อกิจการ โดยเริ่มทยอยอวดโฉมโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเพิ่งเปิดตัว “โรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล แม่ปิง เชียงใหม่” จำนวน 240 ห้อง ซึ่งเป็นการรีโนเวตใหม่โรงแรมอิมพีเรียลแม่ปิงเดิม ด้วยวงเงิน 5,000 ล้านบาท และในปี 2567 จะเปิดอีก 4 แห่ง เพิ่มอีกกว่า 1,000 ห้อง ที่สุขุมวิท (กรุงเทพฯ) 1 แห่ง พัทยา 2 แห่ง และหัวหิน 1 แห่ง มูลค่า 1 หมื่นล้านบาท โดยเป็นโรงแรมที่ซื้อมาและรีโนเวตใหม่
ขณะที่เมกะโปรเจ็กต์ไฮไลต์ ใช้เงินลงทุนกว่า 5 หมื่นล้านบาท ที่ “AWC” เข้าไปปักธงลงทุนทั้ง “พัทยา-เชียงใหม่” เพื่อเป็นหมุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวระดับโลก
ล่าสุด “วัลลภา” อัพเดตว่า AWC เเข้าไปลงทุนพัทยา รวมถึงโครงการมิกซ์ยูสอควอทีคกว่า 2.2 หมื่นล้านบาท ขณะนี้โครงการมิกซ์ยูสอยู่ระหว่างออกแบบ ขออนุญตาตามขั้นตอนของกฎหมาย ทั้งรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม(อีไอเอ) และการก่อสร้าง ใช้เวลาดำเนินการ 4-5 ปี
“โครงการจะมีโรงแรมเจดับบลิว , แมริออท มาร์คีส์, ออโตกราฟ คอลเลคชัน ,วีนแยทท์, คิมป์ตัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ ,F&B ไลฟ์สไตล์ ,เวลเนส และศูนย์กลางกีฬาทางน้ำ ที่เรากำลังร่วมกับพันธมิตร ,พื้นที่จัดศิลปะการแสดง และซีฟู้ดมาร์เก็ต โมเดลนี้จะตอบโจทย์ให้กับพัทยาและสร้างให้เป็นศูนย์กลางไฮไลต์ให้มีทุกอย่างเหมือนกับกรุงเทพเพราะกรุงเทพกับพัทยาใช้เวลาเดินทางไม่นาน และสร้างหมุดหมายของการท่องเที่ยวแห่งใหม่ให้กับประเทศไทยด้วย”วีลลภาแจกแจง
สำหรับเชียงใหม่และโครงการล้านนาทีค ในย่านถนนช้างคลาน “วัลลภา”บอกว่า ใช้เงินลงทุนทั้งหมดกว่า 3 หมื่นล้านบาท ซึ่งล้านนาทีคเป็นหนึ่งในโครงการ ขณะนี้กำลังดูเรื่องกรอบเวลาในการดำเนินการ เพราะจะเอาแอคแทคชั่นโมเดลระดับโลกมาเพิ่มด้วย นอกจากทำฮาร์ตวิลเลจ จึงต้องดูไทม์มิ่งใหม่อีกที จากตอนแรกจะเร่งเปิดไลฟ์สไตล์มาร์เก็ตก่อน
“มีการพัฒนา 12 โครงการในพอร์ตอยู่ใจกลางเมืองจ.เชียงใหม่ รวมเป็นที่ดินกว่า 100 ไร่ เป็นโครงการดำเนินการแล้ว กำลังรีโนเวต และเตรียมสร้างใหม่ ให้เกิดความต่อเนื่องด้านการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม ไนท์บาซาร์ศูนย์การค้า(พันธ์ุทิพย์) รวมถึงสวนสนุกที่กำลังเจรจากับพันธมิตรระดับโลก ทั้งหมดจะใช้เวลาดำเนินการ3-5 ปี เพื่อเสริมแกร่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวเชียงใหม่ให้เป็นจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ”วัลลภากล่าวย้ำ
เมื่อพลิกดูโครงการในแผน คิวพร้อมเปิดบริการในเดือนพฤจินายนนี้ มีโรงแรมแมริออท เชียงใหม่ (โรงแรมเลอเมอริเดียนเดิม)
จากนั้นเดือนธันวาคม เปิด “พันธุ์ทิพย์ เชียงใหม่” โฉมใหม่ไลฟ์สไตล์ฮับ พื้นที่ 13,000 ตารางเมตร หลังทุ่ม 800 ล้านบาทพลิกโฉม ให้ตอบโจทย์ลูกค้าทุกวัย เพราะเป็นแหล่งรวมกิจกรรมที่หลากหลาย ร้านอาหารขึ้นชื่อ
ยังมีบิ๊กซีซูเปอร์มาร์เก็ตที่มียอดขายสูงสุดในประเทศศูนย์สุขภาพความงาม ตลาดสินค้าชุมชน ส่วนพื้นที่ไอทีได้ปรับคอนเซ็ปต์เป็นไลฟ์สไตล์ผสมกับเกมส์มิ่ง
ถัดจากนี้ 2 ปี เปิดบริการโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล เชียงใหม่ แม่ปิง เฟส2 ในส่วนห้องพัก คลับเฮ้าส์
