นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ปัจจัยหลักที่น่าเป็นห่วงสำหรับตลาดอสังหาริมทรัพย์ ยังคงเป็นเรื่องของหนี้ครัวเรือนที่ยังอยู่ในระดับสูง รวมถึงอัตราการปฏิเสธสินเชื่อของสถาบันการเงิน ซึ่งมีนัยสำคัญต่อการผลักดันการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ แต่ก็มีปัจจัยบวก อาทิ ราคาพืชผลเกษตรที่ปรับตัวเพิ่มขึ้น ช่วยเพิ่มกำลังซื้อผู้บริโภคในตลาดล่าง นอกจากนี้ยังต้องติดตามการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ว่าจะเห็นผลทันในปีนี้หรือไม่ เนื่องจากมีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้อง อาทิ การเสนคืนที่ดิน อย่างไรก็ดี คาดว่าการเติบโตของตลาดอสังหาริมทรัพย์ปีนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 5% โดยไม่ต้องมีมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ จากรัฐบาล
สำหรับแผนธุรกิจของแสนสิริในปี 2560 จะมีการเปิดโครงการใหม่ 19 โครงการ มูลค่ารวม 41,200 ล้านบาท แบ่งเป็น คอนโดมิเนียม 8 โครงการ บ้านเดี่ยว 9 โครงการ และทาวน์เฮ้าส์ 2 โครงการ และสำหรับโครงการร่วมทุนกับกลุ่มบริษัท บีทีเอส จะเปิดโครงการใหม่ต่อเนื่องอีก 4 โครงการ มูลค่า 12,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายรวม 36,000 ล้านบาท ประมาณการรายได้รวม 34,000 ล้านบาท
นายวันจักร์ บุรณศิริ ประธานผู้บริหารฝ่ายปฏิบัติการ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ในปีนี้บริษัทจะเปิดตัวโครงการระดับไฮเอนด์ในสัดส่วนที่มากขึ้น โดยไฮไลท์ของปี จะเปิดโครงการบ้านเดี่ยวระดับบน ในแบรนด์บ้านแสนสิริ ราคาเฉลี่ยยูนิตละ 80 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท และมุ่งเจาะกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อในต่างประเทศ โดยปีนี้คาดว่าจะขยายตลาดไปที่กลุ่มลูกค้าชาวญี่ปุ่น จากปัจจุบันมีฐานลูกค้าในฮ่องกง สิงคโปร์และจีนแล้ว
