| ผู้เขียน | ณัฐชนัน ฐิติพันธ์รังสฤต |
|---|
เกือบ 2 เดือนกับผลงานรัฐบาล “เศรษฐา ทวีสิน” ออกสู่สายตาประชาชนหลายมาตรการทีเดียว โดนใจมากน้อยตามรายละเอียดของแต่ละมาตรการ อาทิ พักหนี้เกษตรกร ลดค่าไฟฟ้า ลดราคาน้ำมัน
เพราะรัฐบาลตั้งเป้าหมาย 2 ส่วนหลัก คือ ลดค่าครองชีพประชาชน ต่อด้วยเพิ่มกำลังซื้อประชาชน นั่นคือ การแจกเงินครั้งประวัติศาสตร์ผ่านโครงการ “เติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต”
ทันทีที่รัฐบาลเข้าบริหารประเทศ คนไทยต่างรอคอยหวังใช้เงินก้อนนี้ เป็นค่าใช้จ่าย รวมถึงอาจจะเป็นทุนต่อชีวิตได้
อีกด้านหนึ่งก็มีเสียงจากนักเศรษฐศาสตร์ นักวิชาการ นักการเงิน ฝากความห่วงใยถึงโครงการ เพราะรัฐบาลตั้งเป้า แจกกลุ่มเป้าหมายกว่า 49-50 ล้านคน ต้องใช้งบประมาณกว่า 4-5 แสนล้านบาท และอีกความห่วงใย คือ ภาพทับซ้อนกับโครงการจำนำข้าว อาจจะมีเงินรั่วไหลระหว่างถึงมือประชาชน
ความคืบหน้าล่าสุด อนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ได้ข้อสรุปแล้วว่า อาจจะมีการแบ่งกลุ่มเป้าหมายใหม่ จากเดินแจกถ้วนหน้าทุกคนอายุ 16 ขึ้นไป ซึ่งหลักการจะเป็นการตัดคนที่มีฐานะสูงออก
แบ่งเป็น 1.ตัดกลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 5 หมื่นบาท และหรือมีเงินฝากเกิน 5 แสนบาท ทำให้เหลือคนมีสิทธิ จำนวน 49 ล้านคน 2.ตัดกลุ่มที่มีรายได้เกิน 2.5 หมื่นบาท และหรือเงินฝากเกิน 1 แสนบาทออก ทำให้เหลือผู้มีสิทธิที่ 45 ล้านคน และ 3.แจกแค่เฉพาะกลุ่มคนมีรายได้น้อย มีผู้มีสิทธิ 15-16 ล้านคน
อย่างไรก็ดี คนมีรายได้เกิน 2.5 หมื่นบาท และหรือเงินฝากเกิน 1 แสนบาท ยังมีหวัง เพราะ จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ระบุว่า ถ้าให้ผมเลือกก็ตัดแค่กลุ่มที่มีรายได้มากกว่า 5 หมื่นบาท และหรือมีเงินฝากเกิน 5 แสนบาทออก ขอดูแลคน49 ล้านคนที่เหลือ
แต่ต้องอยู่ที่มติของคณะกรรมการโครงการเงินดิจิทัล 10,000 บาท ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ตัดสินอีกครั้งว่าจะเลือกทางใดหรืออาจจะไม่เลือกเลยสักทางก็ได้
หมายถึงตัดสินใจแจกถ้วนหน้าเหมือนเดิม!!
