แบงก์ชาติ ชี้ ‘ท่องเที่ยว-ส่งออก’ หนุนเศรษฐกิจ ก.ย.ขยายตัว จับตาบริโภคเอกชนโตแผ่ว

ธปท. ชี้ ท่องเที่ยว-ส่งออก หนุนเศรษฐกิจ ก.ย.ขยายตัว จับตาบริโภคเอกชนโตแผ่ว

เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม น.ส.ชญาวดี ชัยอนันต์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายองค์กรสัมพันธ์ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงานเศรษฐกิจและการเงิน เดือนกันยายน 2566 ว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในทิศทางฟื้นตัวจากภาคการท่องเที่ยว จากจำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 2.1 ล้านคน ลดลงจากเดือนก่อนเล็กน้อยที่ 2.5 ล้านคน โดยปกติตามฤดูกาลนักท่องเที่ยวเดือนกันยายน จะน้อยกว่าเดือนก่อนหน้า ขณะที่ภาพรวมไตรมาส 3/2566 จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 7.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 6.4 ล้านคน ในไตรมาสที่ 2/2566 โดยรวมนับตั้งแต่มกราคม-กันยายน 2566 จำนวนนักท่องเที่ยวอยู่ที่ 20 ล้านคน ส่วผลให้กิจกรรมในภาคบริการขยายตัวที่ 11.7% ลดลงจากเดือนก่อนที่ 13%

ขณะเดียวกัน การส่งออกสินค้าที่ปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้าที่ 4.6% จากการส่งออกอัญมณี และสินค้าเกษตร เกษตรแปรรูป ขณะที่การส่งออกบางสินค้าปรับลดลง อาทิ ยานยนต์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างไรก็ดี อุปสงค์การบริโภคภายในประเทศ โดยเครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนชะลอลงจากเดือนก่อนที่ 0.5% แม้การบริโภคชะลอตัวลงแต่ทีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนการบริโภค ซึ่งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคปรับดีขึ้นเป็นเดือนที่ 2 เป็นผลมาจากการช่วยเหลือค่าของชีพจากมาตรการภาครัฐ ขณะที่ตลาดแรงงานยังฟื้นตัวได้ต่อเนื่องทั้งภาคบริการและภาคการผลิต

นอกจากนี้ การลงทุนของภาคเอกชนชะลอลงจากเดือนก่อนที่ 1.2% มาจากหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ลดลง รวมถึงด้านก่อสร้างลดลง อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมั่นการลงทุนภาคเอกชนยังคงอยู่เหนือระดับ 50 ทั้งภาคการผลิตและไม่ใช่ภาคการผลิต ด้านการใช้จ่ายภาครัฐหดตัวจากทั้งรายจ่ายประจำ โดยหดตัวตามการบอกจ่ายงบกลางเพื่อซื้อสินค้าและบริการ และรายจ่ายลงทุนของรัฐ และรัฐวิสาหกิจลดลงตามการเบิกจ่ายของหน่วยงานด้านคมนาคมที่เร่งตัวไปก่อน

Advertisement

“จากภาคบริโภคเอกชนชะลอลงยังไม่ใช่สัญญาณที่ส่งผลว่าเศรษฐกิจชะลอตัวลง เพราะการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวต่อเนื่อง แต่อาจจะพักฐานเป็นระยะ อีกทั้งรัฐบาลมีมาตรการช่วยค่าครองชีพ ฟรีวีซ่าสับสนุนภาคการท่องเที่ยว ส่งผลให้ตลาดแรงงานขยายตัว แต่การขยายตัวต่อเนื่องอาจจะมีการพักฐานที่เร่งตัว แต่มองไปข้างหน้าเศรษฐกิจจะขยายตัวต่อเนื่องจากภาคการท่องเที่ยวเป็นหลักที่จะส่งผลให้หลายเซกเตอร์อื่นยังขยายตัวได้”น.ส.ชญาวดีกล่าว

น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงที่ 0.3% ลดลงจากเดือนก่อนที่ 0.88% ลดลงจากทุกหมวด โดยหมวดอาหารสดลดลงจากราคาผัก ผลไม้และเนื้อสัตว์ หมวดพลังงานลดลงจากมาตรการลดค่าไฟฟ้า และราคาน้ำมันดีเซลของภาครัฐ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานลดลงที่ 0.63% จากเดือนก่อนอยู่ที่ 0.79% จากราคาอาหารสำเร็จรูปเป็นสำคัญ

สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลจากดุลการค้าเป็นสำคัญที่ 3.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ จากเดือนก่อนที่เกินดุลอยู่ที่ 0.4 พันล้านเหรียญสหรัฐ มาจากดุลการค้าที่เกินดุลจากการส่งออกสินค้าที่เพิ่มขึ้น ประกอบกับดุลบริการ รายได้ และเงินโอนขาดดุลลดลงตามรายจ่ายค่าทรัพย์สินทางปัญญา

Advertisement

ด้านอัตราแลกเปลี่ยนเงินบาทเทียบกับเหรียญสหรัฐเฉลี่ยอ่อนค่าลง เนื่องจาก 1.ตลาดปรับเพิ่มการคาดการณ์ว่าอัตราดอกเบี้ยสหรัฐฯ มีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงเป็นเวลานาน 2.ค่าเงินหยวนอ่อนค่าจากเศรษฐกิจจีนที่ยังคงเปราะบาง และ 3.นักลงทุนรอความชัดเจนของนโยบายการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ

“ภาพรวมดัชนีเงินบาทเฉลี่ยอ่อนค่าลงมากกว่าสกุลเงินอื่นๆ ในภูมิภาค โดยเฉลี่ยเดือนกันยายน ถึงวันที่ 23 ตุลาคม เงินบาทเคลื่อนไหวอยู่ที่ 36.58 บาทต่อเหรียญสหรัฐ เงินบาทอ่อนค่าลงตามการแข็งค่าเงินเหรียญสหรัฐ และราคาน้ำมันอยู่ระดับสูงจากความกังวลความขัดแย้งระหว่างอิสราเอล-กลุ่มฮามาส”น.ส.ชญาวดีกล่าว

น.ส.ชญาวดี กล่าวว่า สำหรับเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/2566 ปรับดีขึ้นจากไตรมาสก่อน จากการบริโภคภาคเอกชนและภาคบริการที่ขยายตัวตามจำนวนนักท่องเที่ยวไทยและต่งชาติ ประกอบกับมูลค่าการส่งออกสินค้าเพิ่มขึ้นจากการส่งออกยานยนต์และชิ้นส่วน และปิโตรเลียมเป็นสำคัญ สอดคล้องกับการผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ปรับเพิ่มขึ้น อย่างไรก็ดี การลงทุนภาคเอกชนปรับลดลงในหมวดเครื่องจักรและอุปกรณ์ หลังจากได้เร่งไปในช่วงก่อนหน้า ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปลดลงจากหมวดอาหารสด และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ขณะที่หมวดพลังงานเพิ่มขึ้นตามราคาน้ำมันเบนซิน

“แนวโน้มเดือนตุลาคม และระยะถัดไป กิจกรรมทางเศรษฐกิจคาดว่ายังคงขยายตัวตามอุปสงค์ในประเทศและภาคการท่องเที่ยว และระยะต่อไป ต้องติดตาม 1.การฟื้นตัวของภาคการส่งออกสินค้า 2.นโยบายของรัฐบาล 3.ผลกระทบของเอลนีโญต่อผลผลิตและราคาสินค้ำเกษตร และ 4.ผลกระทบจากความขัดแย้งของกลุ่มฮามาส-อิสราเอลต่อราคาพลังงานและอุปสงค์ต่างประเทศ”น.ส.ชญาวดีกล่าว

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image