‘ไทย-เอฟตา’ ถก FTA รอบ 7 คืบหน้าด้วยดี ตั้งเป้าสรุปผลกลางปี 67

‘ไทย-เอฟตา’ ถก FTA รอบ 7 คืบหน้าด้วยดี ตั้งเป้าสรุปผลกลางปี 67

วันที่ 11 พฤศจิกายน 2566 นางสาวโชติมา เอี่ยมสวัสดิกุล อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เปิดเผยว่า ได้เข้าร่วมการประชุมเจรจาจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทยกับสมาคมการค้าเสรีแห่งยุโรป หรือเอฟตา (European Free Trade Association: EFTA) รอบที่ 7 ระหว่างวันที่ 6-9 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส พร้อมด้วยนางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ในฐานะหัวหน้าคณะเจรจาฯ โดยการเดินทางครั้งนี้ เพื่อเป็นการรับมอบหน้าที่หัวหน้าคณะเจรจาต่อจากนางอรมน หลังจบการเจรจารอบที่ 7

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพิ่มเติมว่า การประชุมครั้งนี้ มีความคืบหน้าด้วยดี ซึ่งประกอบด้วยการประชุมระดับหัวหน้าคณะผู้แทน เพื่อติดตามกำกับความคืบหน้าการเจรจาในภาพรวม และการประชุมกลุ่มย่อย 9 กลุ่ม

ได้แก่ 1) การค้าสินค้า 2) กฎว่าด้วยถิ่นกำเนิดสินค้า 3) มาตรการเยียวยาทางการค้า 4) การค้าบริการ 5) การลงทุน 6) พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ 7) การจัดซื้อจัดจ้างโดยรัฐ 8) ความร่วมมือด้านเทคนิคและการเสริมสร้างศักยภาพ และ 9) วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

Advertisement

โดยตั้งเป้าสรุปผลการเจรจาให้ได้ภายในกลางปี 2567 ทั้งนี้ จะมีการประชุมอีก 3 ครั้ง ในช่วงเดือนมกราคม มีนาคม และเมษายน 2567 นอกจากนี้ จะจัดการประชุมกลุ่มทรัพย์สินทางปัญญาในรูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 13-17 พฤศจิกายนนี้ และการประชุมของกลุ่มกฎหมายและการระงับข้อพิพาท ระหว่างวันที่ 4-7 ธันวาคมนี้ ณ นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์

สำหรับผลการประเมินเบื้องต้น พบว่า การเจรจา FTA ไทย-เอฟตา จะช่วยให้ GDP ของไทยเพิ่มขึ้น 0.179% หรือประมาณ 886.40 ล้านดอลลาร์สหรัฐ การส่งออกของไทยไปเอฟตา เพิ่มขึ้น 0.142% หรือประมาณ 405.26 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าของไทยจากเอฟตา เพิ่มขึ้น 0.224% หรือประมาณ 615.10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

โดยสินค้าที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ ได้แก่ ข้าว ข้าวโพดหวาน อาหารสำเร็จรูป อาหารสุนัขและแมว ผลไม้เมืองร้อน ไก่แปรรูป น้ำตาลและผลิตภัณฑ์ เครื่องแต่งกาย ยานยนต์และชิ้นส่วน และอัญมณีและเครื่องประดับ สำหรับภาคบริการที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์ อาทิ การท่องเที่ยว การเงิน โทรคมนาคม การแพทย์และสุขภาพ พลังงานสะอาด และด้านวิชาชีพ

Advertisement

ทั้งนี้ ในช่วง 9 เดือน (ม.ค.-ก.ย. 2566) การค้าระหว่างไทยกับเอฟตา มีมูลค่า 7,036.80 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยไทยส่งออกไปเอฟตา มูลค่า 3,240.16 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และไทยนำเข้าจากเอฟตา มูลค่า 3,796.65 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ อัญมณีและเครื่องประดับ นาฬิกาและส่วนประกอบ เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และเครื่องใช้สำหรับเดินทาง และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ เครื่องเพชรพลอย อัญมณี เงินแท่งและทองคำ นาฬิกาและส่วนประกอบ เนื้อสัตว์สำหรับการบริโภค ผลิตภัณฑ์ และเวชกรรมและเภสัชกรรม

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image