| ผู้เขียน | ภคพร บุญมี |
|---|
จากกรณีรถบรรทุกขนสินค้าเกินน้ำหนักที่กฎหมายกำหนด วิ่งผ่านบ่ออุโมงค์ร้อยสายไฟและสายสัญญาณของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) ที่มีแผ่นคอนกรีตถูกปูปิดเป็นฝาบ่อ บนถนนสุขุมวิทขาเข้า บริเวณซอยสุขุมวิท 64/1 ทำให้แผ่นคอนกรีตฝาบ่อหลุดจากถนนเอียงลงไปในบ่อ รถบรรทุกจึงติดอยู่ในหลุมไม่สามารถเคลื่อนตัวได้
เมื่อสังเกตไปที่หน้ากระจกรถ พบมีสติ๊กเกอร์ติดอยู่จึงยากที่จะปฏิเสธว่ารถบรรทุกคันดังกล่าวมีการจ่ายส่วย และบรรทุกน้ำหนักเกินจนทำให้เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เรื่องนี้จึงร้อนมาถึง สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ในฐานะผู้กำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับรถบรรทุก จึงได้สั่งการให้กรมการขนส่งทางบก (ขบ.) กรมทางหลวง (ทล.) และกรมทางหลวงชนบท (ทช.) หาแนวทางการป้องกันเหตุอย่างเร่งด่วน
โดย ทล.ได้ขอความร่วมมือผู้ประกอบการรถบรรทุกร่วมแก้ไขปัญหารถบรรทุกน้ำหนักเกินอย่างยั่งยืน รวมถึงมีการสับเปลี่ยนหมุนเวียนเจ้าหน้าที่ประจำสถานีฯทั่วประเทศ ครั้งละไม่เกิน 1 ปี เพื่อลดความคุ้นเคยของเจ้าหน้าที่กับผู้ประกอบการขนส่งเพื่อป้องกันโอกาสการทุจริต อีกทั้งนำเทคโนโลยีระบบชั่งน้ำหนักยานพาหนะขณะเคลื่อนที่ (WIM) มาใช้ให้เพียงพอกับการปฏิบัติงาน และการนำกล้องตรวจการณ์มาใช้ในขณะปฏิบัติหน้าที่อีกด้วย
ขณะที่ ทช.ได้จัดทำหลักสูตรอบรมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการกำกับน้ำหนักบรรทุกตาม พ.ร.บ.ทางหลวง พ.ศ.2535 ให้กับเจ้าหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ได้รับคัดเลือกจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่น รวมถึงนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อลดการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้ขับขี่รถบรรทุกกับเจ้าหน้าที่และลดการใช้ดุลพินิจของเจ้าหน้าที่ เช่น ระบบ WIM ระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด (CCTV) เป็นต้น
ส่วน ขบ.โดยกองตรวจการขนส่งทางบกได้ออกตรวจสอบรถที่ผิดกฎหมาย โดยในเขตกรุงเทพฯและปริมณฑลจะออกตรวจสอบทุกวัน สำหรับสำนักงานขนส่งจังหวัดจะออกตรวจสอบอย่างน้อย 3 ครั้งต่อเดือน
นอกจากนี้ ยังได้ตรวจสอบการกระทำความผิดและดำเนินการเปรียบเทียบปรับตาม พ.ร.บ.รถยนต์ พ.ศ.2522 และ พ.ร.บ.การขนส่งทางบก พ.ศ.2522 อย่างเคร่งครัด
