บีซีพีจี วอนรัฐลดค่าสายส่ง ดึงผลิตไฟส่วนเกินเข้าระบบแทนสร้างโรงไฟฟ้าใหม่ กดต้นทุนค่าไฟ
นายนิวัติ อดิเรก ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงข้อเสนอนโยบายไฟฟ้าต่อรัฐบาลว่า อยากให้รัฐบาลลดอัตราค่าบริการสายส่งและจำหน่าย (วิลลิ่งชาร์จ) ปัจจุบันอยู่ที่ 1.60 บาทต่อหน่วย เพื่อสนับสนุนให้ผู้ผลิตไฟฟ้าใช้เองทั้งเอกชนและภาคประชาชนนำไฟฟ้าส่วนเกินที่เหลือในระบบประมาณ 30-40% ขายเข้าระบบ จะทำให้ลดวงเงินลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าได้จำนวนมาก
นอกจากนี้จะทำให้ประชาชนลดต้นทุนค่าไฟ จากปัจจุบันรัฐบาลลดอัตราค่าไฟเหลือ 3.99 บาทต่อหน่วย ประชาชนได้ประโยชน์ก็จริง แต่ค่าไฟดังกล่าวไม่ได้สะท้อนต้นทุนจริงที่สูงกว่าค่าไฟอัตราดังกล่าวมาก ทำให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) รับภาระแทนประชาชน ซึ่งภาระดังกล่าวสุดท้ายต้องส่งกลับเข้าไปในค่าไฟหลังจากนี้อยู่ดี
นายนิวัติ กล่าวว่า นอกจากนี้อยากให้ภาครัฐลดขั้นตอนกฎระเบียบในการจัดทำมาตรการคาร์บอนเป็นศูนย์ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุเป้าหมายได้รวดเร็วขึ้น
นายนิวัติ กล่าวว่า สำหรับความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจปี 2567 อันดับแรก คือ 1.ภาพรวมเศรษฐกิจทั่วโลกที่ยังไม่ดี อัตราดอกเบี้ยยังคงสูง ก่อให้เกิดต้นทุนด้านการเงินและกระทบต่อผลตอบแทน และการกู้เงิน 2.ราคาเชื้อเพลิงที่ยังคงมีความผันผวนทั้ง น้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ แม้ว่าค่าเอฟทีที่เพิ่มขึ้นดีจะดีกับบริษัท แต่บางโครงการจะมีต้นทุนค่าขนส่ง และ 3.ปัญหาภูมิรัฐศาสตร์ที่ยังเกิดขึ้น จะยังคงเป็นความเสี่ยงที่ขยายวงกว้างขึ้น