อสังหา-มิกซ์ยูส ดันรายได้ ‘แกรนด์โฮม’ ทะลุ 4 พันล้าน ทุ่มพลิกโฉม 4 สาขาใหม่
นายพีระพัฒน์ ทยานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการสายงานบริหารและค้าปลีก บริษัท แกรนด์โฮมมาร์ท จำกัด ศูนย์จำหน่ายวัสดุก่อสร้างและตกแต่ง เปิดเผยว่า ปัจจุบันแกรนด์โฮมแบ่งธุรกิจออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ธุรกิจขายโครงการ ทั้งผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ระดับท็อป 10 ของประเทศ ผู้รับเหมา สถาปนิก ดีไซเนอร์ ศูนย์การค้า 2.ธุรกิจขายปลีก 3.ธุรกิจอีคอมเมิร์ซ โดยรายได้มาจากธุรกิจขายโครงการเกือบ 80% ขายปลีก 20% และอีคอมเมิร์ซ 1% ซึ่งกลุ่มกระเบื้องและห้องน้ำเป็นกลุ่มสร้างรายได้หลัก 80% อีก 20% เป็นกลุ่มอื่นๆ เช่น ครัว เป็นต้น
“รายได้การขายจะเติบโตธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งในช่วงนี้มีการพัฒนาโครงการลักชัวรี่มากขึ้น รวมถึงมีการขยายโรงพยาบาล รีโนโวทโรงแรม และโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ เช่น วัน แบงค็อก ซึ่งเราได้ขายเข้าโครงการนี้ด้วย คาดปีนี้จะมียอดขาย 4,050 ล้านบาท เติบโตจากปีก่อน 8% ส่วนปี 2567 ตั้งเป้ามีรายได้ 4,252 ล้านบาท เติบโต 5% ตามตลาดอสังหาฯ และหากรัฐมีมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯออกมา จะช่วยทำให้ตลาดดีขึ้น คาดอีก 2 ปี รายได้จะกลับมาแตะ 5,000 ล้านบาท เท่ากับช่วงก่อนโควิด” นายพีระพัฒน์กล่าว
นายพีระพัฒน์กล่าวว่า แม้สงครามอิสราเอลยังไม่ส่งผลกระทบ แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ ทำให้แกรนด์โฮมระมัดระวังในการลงทุนใหม่ๆ มากขึ้น เช่น เปิดสาขาใหม่ และคัดกรองลูกค้าที่มีศักยภาพมากขึ้น โดยในปี 2567 มีแผนจะปรับโฉมโชว์รูม 4 สาขาใหม่ให้เป็นรูปแบบไลฟ์สไตล์มากขึ้น อาทิ บางนา รัตนาธิเบศร์ รามอินทรา เพื่อรองรับลูกค้าที่จะเข้ามาใช้บริการให้จบครบที่เดียว มีร้านอาหารและเครื่องดื่มรวมถึงมีหมวดสินค้าเพิ่มเติม จากเมื่อปี 2565 ได้เพิ่มหมวดหลังคามาทำตลาด
นายพีระพล ทยานุวัฒน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ สายงานขายโครงการและผลิตภัณฑ์ต่างประเทศ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้นำผลิตภัณฑ์ไปทำตลาดกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าโครงการและเจ้าของบ้าน ซึ่งแนวทางการพัฒนาสินค้าและบริการของแกรนด์โฮม ในอนาคตจะให้ความสำคัญกับการคัดสรรผลิตภัณฑ์จากทุกมุมโลกที่เป็นเทรนด์ นวัตกรรม และการบริการ มีกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไฮไลต์อยู่ 3 กลุ่ม
ได้แก่ 1.กลุ่ม Tiles’Story แหล่งรวมกระเบื้องชั้นนำจากทุกมุมโลก โดยเป็นเอ็กคลูซีฟให้กับหลายแบรนด์ อาทิ Marazzi จากอิตาลี ด้านเทรนด์ปีนี้จะเน้นการเลียนแบบลายหินหายากและเสมือนจริงในกลุ่ม Sintered Stone Full Body เพื่อนำมาตอบโจทย์งานสถาปัตยกรรม ตกแต่งภายใน และเฟอร์นิเจอร์ ขณะที่กระเบื้องไซซ์ใหญ่ยังเป็นที่นิยมของลูกขนาด 160X320 เซนติเมตร
2.กลุ่ม Baths’Story แหล่งรวมสุขภัณฑ์ชั้นนำจากแบรนด์ดังที่ตอบโจทย์ลูกค้าทั้งดีไซน์และราคา ยังมี House Brand ชื่อ Victor มาเติมเต็มตลาด ซึ่งเทรนด์สุขภัณฑ์เน้นในเรื่อง Smart Bathroom ปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้าได้ และมาพร้อมกับการติดตั้ง การบริการหลังการขาย
3.กลุ่ม Kitchens’Story มี 2 แบรนด์ ได้แก่ Le Krua ครัวปูน และ The Common โดยจุดเด่นของ The Common คือ เป็นแบบ Modular ลูกค้าสามารถ Customise สร้างสรรค์สไตล์ได้ ซึ่งเป็นครัวที่สร้างมาจากของลูกค้าอย่างแท้จริง นอกจากนี้ แกรนด์โฮมยังมี Quick Solution และ Grand Renovation เพื่อให้บริการทั้งงานก่อสร้าง ต่อเติม จนถึงงานซ่อมแซมอีกด้วย