”กรุงศรี ออโต้“ผงาดขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถอีวี หลังปล่อยสินเชื่อทะลุ 217% โตเกินคาด 3 เท่า!

”กรุงศรี ออโต้“ผงาดขึ้นเป็นผู้นำตลาดรถอีวี หลังปล่อยสินเชื่อทะลุ 217% โตเกินคาด 3 เท่า!

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน นายคงสิน คงคา ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า กรุงศรี ออโต้ เชื่อมั่นว่าจะสามารถรักษาตำแหน่งผู้นำการตลาดสินเชื่อยานยนต์และมอบบริการที่มากกว่าสินเชื่อยานยนต์ให้แก่ผู้ใช้รถได้อย่างต่อเนื่อง พร้อมบรรลุเป้าหมายการเติบโตสินเชื่อใหม่ปีนี้ที่ตั้งไว้ที่ระดับ 192,000 ล้านบาท เติบโต 5% หนุนยอดสินเชื่อคงค้างปีนี้โตเกินเป้าหมายที่ 426,000 ล้านบาทแน่นอน ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปี 2566 อยู่ที่ 2% ใกล้เคียงกับปีที่ผ่านมา โดยธนาคารยังให้ความสำคัญกับการให้สินเชื่อตามความสามารถการชำระหนี้ของลูกค้า ขณะที่สินเชื่อใหม่ยานยนต์ไฟฟ้า (อีวี) ปีนี้เติบโตเข้าเป้าหมายที่ระดับ 4,624 ล้านบาท หรือเติบโตประมาณ 217% ซึ่งโตทะลุเป้าถึง 3 เท่า

นายคงสิน กล่าวว่า สำหรับสินเชื่อยานยนต์ไฟฟ้าในช่วงปี 2566 ยังคงเดินหน้าปั้นพอร์ตสินเชื่อดังกล่าวครอบคลุม 32 แบรนด์ในตลาดทั่งรถยนต์และมอร์เตอร์ไซค์ รวมถึงแผนสร้างอีโคซิสเต็มด้านอีวีเต็มรูปแบบภายใน 3 ปี ส่วนแผนธุรกิจปี 2567 จะเป็นการเผยแผนธุรกิจระยะกลางฉบับใหม่ปี 2567-2569 โดยกรุงศรี ออโต้ยังคงมุ่งมั่นในการทำให้พันธกิจในการสร้างสรรค์ชีวิตผู้ใช้รถให้ดีขึ้นสำเร็จมากยิ่งขึ้น และดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนต่อไป

นอกจากนี้ ธนาคารเตรียมขยายอีโคซิสเต็มด้านอีวีด้วยการสร้าง EV E-Marketplace แหล่งรวมสินค้าและบริการเกี่ยวกับผู้ใช้รถอีวี บนแพลตฟอร์ม LINE Official Account และจะขยายบริการต่อไปบนแอพพลิเคชัน GO by Krungsri Auto ที่ขณะนี้มีบริการค้นหาสถานีแท่นชาร์จรถไฟฟ้าครอบคลุมกว่า 80% ของสถานีทั้งหมดในไทย

นายคงสิน กล่าวว่า สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจและตลาดสินเชื่อยานยนต์ปี 2566 ด้วยคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ (จีดีพี) ในปีนี้อยู่ที่ระดับ 2.8% เป็นการเติบโตภายใต้การชะลอตัวของการส่งออก การลงทุน การใช้จ่ายภาครัฐ จากมุมมองเดิมที่ระดับ 3.3% ส่วนยอดขายรถยนต์ใหม่ในปีนี้คาดว่ามีจำนวน 810,000 คัน ลดลงประมาณ 5% ส่วนตลาดสินเชื่อยานยนต์ปีนี้คาดว่าจะลดลงประมาณ 1% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 516,000 บาท

ทั้งนี้ สำหรับเทรนด์ตลาดสินเชื่อยานยนต์ปี 2567 มอง G.A.M.E. (G: กระแส Go Green ,A : เก่งด้วย AI ,M: Maas ก้าวใหม่ในการใช้รถ และ E :ก่อ Ecosystem ที่ยั่งยืน) เป็นเทรนด์ใหม่ที่สะท้อนทิศทางตลาดในปีหน้า ที่ยังเต็มไปด้วยความท้าทาย ธุรกิจต่างๆต้องมีการปรับกลยุทธ์ให้ทันสถานการณ์ พัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์อินไซต์ผู้บริโภคอย่างแท้จริง จึงมุ่งสร้างสรรค์นวัตกรรมโซลูชันเพื่ออนาคต และแลกเปลี่ยนคุณค่ากับผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ไม่ว่าจะเป็นพนักงาน ลูกค้า คู่ค้า ผู้ใช้รถ ผู้ถือหุ้น ตลอดจนสังคมไทย เพื่อให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน

เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่