สรท.เชื่อส่งออกไทยพ้นวิกฤต ไม่กลับไปอยู่ห้องไอซียู ชี้ทั้งปีติดลบไม่เกิน 1.5% รอปีมังกรฟื้นบวก 1.2%
นายชัยชาญ เจริญสุข ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย (สรท.) เปิดเผยในงานเสวนา วิเคราะห์ส่งออกปีมังกร 2567 สดใสหรืออ่อนแรงว่า คาดการส่งออกไทยในไตรมาส 4/2566 จะปิดบวกที่ 5-7% ส่งผลให้ทั้งปี 2566 ติดลบประมาณ 1% หรือสูงสุดไม่เกิน 1.5% เท่านั้น ถือเป็นตัวเลขที่มองเห็นอย่างชัดเจน เนื่องจากส่งออกไทยผ่านจุดต่ำสุดแล้ว
โดยเชื่อว่าคงไม่เห็นการกลับไปอยู่ในห้องไอซียูอีกครั้ง เพราะผ่านจุดวิกฤตมาได้แล้ว อาทิ มูลค่าการส่งออกลดลงเหลือประมาณ 21,000 ล้านเหรียญสหรัฐ เพราะปัจจุบันขึ้นมาอยู่ที่ 23,500 ล้านเหรียญสหรัฐแล้ว จึงคาดการณ์ว่าปี 2567 ส่งออกจะเติบโตได้ที่ 1.2% ทำให้เกิดการเติบโตได้อย่างมั่นคง มองตลาดให้ชัด รักษาตลาดเดิม เสริมตลาดใหม่
“ส่งออกในเดือนตุลาคม พฤศจิกายน และธันวาคม มองว่าจะเป็นบวกได้ เพราะสินค้าแต่ละตัวมีศักยภาพ รวมถึงปัญหาอุปสรรคทางการค้าคลายตัวในบางอุตสาหกรรมแล้ว แม้มีบางกลุ่มอุตสาหกรรมยังไม่ได้ดีมากนัก ส่วนสินค้าส่งออกของไทยในปี 2567 ยังคงรักษาระดับได้ดี โดยเฉพาะกลุ่มเกษตร อาหาร ผลไม้ รวมถึงอุตสาหกรรมรถยนต์และชิ้นส่วนยานยนต์ ยังสามารถขับเคลื่อนไปได้” นายชัยชาญกล่าว
นายชัยชาญกล่าวว่า ปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้และเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาทิ อัตราดอกเบี้ยนโยบายที่อยู่ในระดับสูงช่วงต้นปี 2567 สงครามยูเครน-รัสเซีย ตามมาด้วยอิสราเอลและกลุ่มฮามาส รวมถึงสงครามการค้าจีนและสหรัฐ ที่มีอย่างต่อเนื่องและรุนแรงมากขึ้น ผ่านมาตรการกีดกัดที่ทยอยออกมา ทั้งยังมีกฎระเบียบทางการค้าแบบใหม่ที่จะเพิ่มขึ้นมาด้วย อาทิ เกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมในประเทศส่งออกปลายทางต่างๆ ทำให้ปัจจัยภายนอกถือเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้ตลอดเวลา มีความไม่แน่นอนสูงมาก คาดการณ์ไม่ได้ ทั้งเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ สังคม เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ทุกอย่างมีความเชื่อมโยงซึ่งกันและกัน จึงถือเป็นกุญแจสำคัญ เป็นความท้าทายที่จะต้องบริการจัดการต่อไป
นายชัยชาญกล่าวว่า ปัจจัยภายในเป็นเรื่องแรงงานและค่าจ้างงานที่เพิ่มมากขึ้น เพราะก้าวเข้าสู่สังคมสูงวัยมากขึ้น ทำให้การบริหารงานในอนาคต จะต้องลงทุนในเทคโนโลยีใหม่มากขึ้นอย่างเลี่ยงไม่ได้ การขนส่งโลจิสติกส์ก็จะนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพื่อให้เกิดความแม่นยำและลดการใช้แรงงานคนลง ซึ่งถือว่าหลีกเลี่ยงได้ยาก จึงจำเป็นต้องนำเทคโนโลยีใหม่เข้ามา และบริหารจัดการแรงงานอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด รวมถึงในแง่การใช้พลังงาน ที่ราคาคงไม่กลับสู่ระดับเดิมแล้ว จึงจำเป็นต้องปรับปรุงกระบวนการผลิต เพื่อให้ใช้พลังงานน้อยที่สุด อาทิ การติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อช่วยจัดการพลังงานดีขึ้น อัตราแลกเปลี่ยนที่มีการเคลื่อนไหวผันผวนมาก แต่ในขณะนี้อยู่ประมาณ 34-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ยังเอื้อการส่งออก และสามารถบริหารจัดการได้
นายชัยชาญกล่าวว่า ค่าระวางเรือไม่มีปัญหา คงที่และลดลงบ้างด้วยซ้ำ ตู้คอนเทนเนอร์เพียงพอแน่นอน ทำให้ปัจจัยกระทบด้านโลจิสติกส์ไม่มีปัญหาแล้ว มีเพียงจะต้องหาทางทำให้การส่งออกสินค้าของไทยขายได้มากที่สุด เพื่อพยุงการส่งออก ภายใต้อัตราแลกเปลี่ยนระดับ 33-35 บาทต่อเหรียญสหรัฐ ราคาน้ำมัน ไม่น่าจะผันผวนมากนัก อยู่ประมาณ 80-90 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล ท่ามกลางสถานการณ์ความขัดแย้งของอิสราเอลและปาเลสไตน์ ที่ต้องไม่ขยายวงกว้างไปมากกว่านี้
นายชัยชาญกล่าวว่า เอกชนและรัฐบาลจะต้องทำงานร่วมกันในปี 2567 ผ่าน 3 สร้าง ได้แก่ 1.เร่งสร้าง หาตลาดใหม่เพิ่มเติม อีคอมเมิร์ซ และเชื่อมโยงระบบการขนส่งหลายรูปแบบมากขึ้น 2.เร่งเสริม อาทิ ซอฟต์เพาเวอร์อย่างผลไม้ ที่เป็นสินค้าชูโรงของไทยได้ ต้องสนับสนุนในแง่งบประมาณเพื่อสร้างการรับรู้มากขึ้น และ 3.เร่งสานต่อ เขตการค้าเสรีต่างๆ อาทิ เอฟทีเอไทย-อียู ที่จะมีความจำเป็นมากในอนาคต แก้กฎหมายที่ล้าสมัย ไม่เอื้อการส่งออก รวมถึงกฎระเบียบทางการค้า อาทิ สิ่งแวดล้อม ที่เริ่มมีการควบคุมมากกว่าเดิม
