ทอท.ยันขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก ไม่ได้ผลักภาระ ใช้ราคาเดียวมา 17ปี ชี้นำเงินไปพัฒนาคุณภาพให้ดีขึ้น

ทอท.เผยปรับเพิ่มค่าบริการผู้โดยสาร 6 สนามบิน ดันรายได้เพิ่ม 3.6 พันล./ปี ยันไม่ผลักภาระ ด้าน กพท.เล็งทบทวนการจัดเก็บค่าพีเอสซี คาดแล้วเสร็จปลายปี’67

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ ผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จํากัด (มหาชน) หรือ ทอท. เปิดเผยว่า จากกรณีที่ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2567 เป็นต้นไป ทอท.จะปรับขึ้นค่าบริการผู้โดยสารขาออก (Passenger Service Charge: PSC) สําหรับผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศ โดยปรับจาก 700 บาทต่อคน เป็น 730 บาทต่อคน และค่า PSC สําหรับผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ปรับจาก 100 บาทต่อคน เป็น 130 บาทต่อคนนั้น ทอท.ไม่ได้มีการปรับขึ้นค่า PSC มาเป็นเวลากว่า 17 ปีแล้ว

ครั้งล่าสุดเมื่อเปิดให้บริการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) ในปี 2549 โดยรายได้จากการจัดเก็บค่า PSC กฎหมายได้กําหนดให้ผู้บริหารท่าอากาศยานนําไปใช้ในการพัฒนาท่าอากาศยาน จัดหาและปรับปรุงสิ่งอํานวยความสะดวกต่างๆ และการบํารุงรักษาด้านความปลอดภัยท่าอากาศยานให้เป็นไปตามมาตรฐานของท่าอากาศยานในระดับสากล

นายกีรติกล่าวอีกว่า โดย ทอท.ได้วางแผนลงทุนการพัฒนาปรับปรุงคุณภาพการให้บริการในท่าอากาศยานทุกแห่ง เพื่อประโยชน์ต่อผู้โดยสาร เป็นวงเงินกว่า 16,000 ล้านบาท ในระยะเวลา 20 ปี ตั้งแต่ปี 2565-85 อาทิ ระบบบริการผู้โดยสารขึ้นเครื่อง ระบบเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ และบริการรับกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้ผู้โดยสารได้รับบริการที่รวดเร็ว ลดเวลารอคิวสำหรับบริเวณจุดตรวจหนังสือเดินทางที่จะปรับปรุงพื้นที่ตรวจลงตราคนเข้าเมือง (ตม.) ขาออก ชั้น 4 อาคารผู้โดยสาร ทสภ. โดยจะติดตั้งเครื่อง Automated Border Control (ABC) มาใช้แทนการตรวจลงตราโดยเจ้าพนักงานเช่นเดียวกับสนามบินชั้นนําทั่วโลก ทําให้สามารถปรับปรุงพื้นที่เคาน์เตอร์ ตม.เดิมเป็นพื้นที่จุดตรวจค้นผู้โดยสารเพิ่มได้อีก

Advertisement

“ขอยืนยันว่าค่า PSC ที่เพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นการผลักภาระค่าใช้จ่ายให้ผู้โดยสารอย่างแน่นอน เนื่องจากเป็นการย้ายหมวดการจัดเก็บเท่านั้น จากค่าบริการเคาน์เตอร์เช็กอินของสายการบินที่เรียกเก็บรวมในค่าตั๋วโดยสารอยู่แล้วมาเป็นค่า PSC แทน ซึ่งยังรวมอยู่ในค่าตั๋วโดยสาร ไม่ได้กระทบต่อรายจ่ายของผู้โดยสารแต่อย่างใด ขณะเดียวกันค่า PSC ที่เพิ่มขึ้นจะทำให้ ทอท.มีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ไม่ได้เพิ่มอย่างมีนัยสำคัญ เป็นการเพิ่มตามปริมาณผู้โดยสาร เช่น ปี 2567 คาดการณ์ว่าจะมีผู้โดยสารใช้บริการสนามบิน ทอท. จำนวน 120 ล้านคน จะทำให้ ทอท.มีรายได้เพิ่มประมาณ 3,600 ล้านบาทต่อปี เป็นต้น” นายกีรติกล่าว

ด้าน นายสุทธิพงษ์ คงพูล ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (กพท.) กล่าวว่า จากการเก็บค่า PSC ของ ทอท. มองว่าผู้โดยสารจะได้รับประโยชน์มากขึ้น และจะได้รับบริการที่สะดวกขึ้น ทั้งนี้ กพท.อยู่ระหว่างการศึกษาพิจารณาทบทวนแนวทางการจัดเก็บค่า PSC ใหม่ทั้งระบบ เนื่องจากค่า PSC มีการเรียกเก็บทุกสนามบินทั่วโลก ซึ่งมีราคาที่สูงและต่ำกว่าที่ไทยดำเนินการจัดเก็บอยู่ ดังนั้น จึงต้องไปพิจารณาอัตราการจัดเก็บที่เหมาะสม เพราะบางรายการไม่ได้เป็นต้นทุนแล้ว หรือหลายรายการเป็นต้นทุนใหม่ ส่วนจะเพิ่มขึ้นหรือลดลงสามารถเป็นไปได้ทั้งนั้น

นายสุทธิพงษ์กล่าวอีกว่า โดยเบื้องต้นคาดว่าจะใช้เวลาศึกษาและดำเนินการตามกระบวนการ เพื่อเสนอคณะกรรมการการบินพลเรือน (กบร.) เสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเห็นชอบ ในระยะเวลา 1 ปี หรือช่วงปลายปี 2567 ส่วนการเก็บค่า PSC ในกฎระเบียบและเชิงนโยบาย เป็นการผลักภาระผู้โดยสารหรือไม่นั้น ต้องพิจารณาระบบเหมาะสมและเป็นธรรม ซึ่งผู้ให้บริการต้องมีต้นทุน โดยเฉพาะต้นทุนการเดินทางต้องมาที่ผู้ใช้บริการ ซึ่งเรื่องนี้ได้ดำเนินการตามกฎหมายและกฎระเบียบที่ระบุไว้เรียบร้อย และสังคมสามารถตรวจสอบได้

Advertisement
QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image