กพร. ดันผู้ประกอบการใช้ เซอร์คูลา อีโนโนมี เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ 7,900 ล.

กพร. ดันผู้ประกอบการใช้ เซอร์คูลา อีโนโนมี เพิ่มมูลค่าเศรษฐกิจ 7,900 ล.

ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานสัมมนาวิชาการ “Innovation in Raw Materials Conference 2023: Circular Economy in MIND ขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืนด้วยเศรษฐกิจหมุนเวียน” จัดโดย กรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่(กพร.)ว่า ปีนี้ กพร. ประสบความสำเร็จในการส่งเสริมและผลักดันผู้ประกอบการให้มีการประยุกต์ใช้หลักการเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อขับเคลื่อนธุรกิจสู่ความยั่งยืน ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี และยกระดับสถานประกอบการให้มีการประกอบการและผลิตสินค้าตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อเชื่อมโยงตลาดสู่ห่วงโซ่มูลค่าโลกที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจและเพิ่มโอกาสการส่งออกคิดเป็นมูลค่ากว่า 7,900 ล้านบาทต่อปี และลดการปลดปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 12,000 ตัน CO2 เทียบเท่าต่อปี

ดร.อดิทัต วะสีนนท์ รองอธิบดี รักษาราชการแทนอธิบดีกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กล่าวว่า ได้ส่งเสริม พัฒนา และยกระดับผู้ประกอบการเหมืองแร่ อุตสาหกรรมพื้นฐาน และอุตสาหกรรมต่อเนื่อง ด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี อย่างครบวงจร ตั้งแต่การนำทรัพยากรแร่มาใช้ประโยชน์ จนกระทั่งการจัดการเศษซากผลิตภัณฑ์เมื่อหมดอายุการใช้งาน โดยเน้นการนำกลับมาหมุนเวียนเป็นวัตถุดิบทุติยภูมิให้แก่ภาคอุตสาหกรรมให้ได้มากที่สุด

ตัวอย่างผลงานในปีนี้ที่สำคัญ เช่น การพัฒนาวัตถุดิบคุณภาพสูงเพื่อเพิ่มมูลค่าแร่ โดยได้พัฒนาเทคโนโลยีการสังเคราะห์ซีโอไลต์ (Zeolite) จากแร่ดินขาว สำหรับใช้เป็นวัสดุดูดซับกลิ่นหรือบำบัดน้ำเสีย (จากแร่ดินขาว 700-900 บาทต่อตัน เป็น Zeolite 17,000-20,000 บาทต่อตัน) และได้ผลิตเป็นทรายแมว Zeolite เทคโนโลยีการผลิตยิปซัมเกรดอาหาร สำหรับใช้ผลิตอาหารประเภทเต้าหู้อ่อน ขนมขบเคี้ยว หรือเป็นสารตัวเติมในการผลิตเบียร์ (จากแร่ยิปซัม 1,000 บาทต่อตัน เป็นยิปซัมเกรดอาหาร 40,000 บาทต่อตัน)

Advertisement

รวมทั้งการพัฒนาต้นแบบการประยุกต์ใช้เทคโนโลยี 4.0 ในอุตสาหกรรมเหล็กและอะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มผลิตภาพและประสิทธิภาพการผลิตให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ปลอดภัย และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การยกระดับ
สถานประกอบการให้มีการประกอบการและผลิตสินค้าตามแนวทางเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อเชื่อมโยงตลาดสู่ห่วงโซ่มูลค่าโลกที่ให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจหมุนเวียนและการพัฒนาที่ยั่งยืน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการ CBAM และมาตรฐานการตรวจสอบย้อนกลับผลิตภัณฑ์รีไซเคิล การพัฒนาเทคโนโลยีรีไซเคิลเพื่อแยกสกัดแร่/โลหะที่มีมูลค่าสูงกลับมาใช้เป็นวัตถุดิบให้แก่ภาคอุตสาหกรรม การอัพไซเคิล (Upcycle) เปลือกแมคคาเดเมีย (Macadamia) ซึ่งเป็นเศษวัสดุเหลือทิ้งทางการเกษตร โดยนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ขัดผิวหน้า (Face Scrub) ในอุตสาหกรรมเครื่องสำอาง
เป็นต้น

ปัจจุบัน กพร. ได้สร้างสรรค์เทคโนโลยีรีไซเคิลและนวัตกรรมวัตถุดิบ รวมกว่า 80 ชนิด โดยที่ผ่านมาได้ถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีให้แก่ผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้ที่สนใจ เฉลี่ยกว่า 400 รายต่อปี

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image