ผู้เขียน | วิณัฐฏาภรณ์ ศิริโสม |
---|
ประเทศไทยหันมาให้ความสำคัญกับพลังอ่อน หรือซอฟต์เพาเวอร์มากขึ้นสะท้อนได้จากการจัดตั้งคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่มี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เป็นประธานกรรมการ
ที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกันหลากหลายครั้งแล้ว และมีหลายหลากแนวคิด โครงการ ที่เป็นไอเดียเกิดขึ้นจากการหารือร่วมกันระหว่างรัฐบาลและภาคเอกชน
ล่าสุดไอเดียที่ออกมาคือ การต่อยอดวัฒนธรรมประเพณีเก่าแก่ของไทย อย่างการจัดเทศกาลสงกรานต์ ที่จะตรงกับวันที่ 13-15 เมษายนของทุกปี โดยปี 2567 ถือเป็นการเริ่มต้นความพิเศษ เนื่องจากคณะกรรมการมองว่าต้องการจัดสงกรานต์ทั้งเดือนเมษายน ไม่ได้จัดเพียงแค่ 3 วันตามปกติ หรือรวมวันไหลในแต่ละพื้นที่อีกประปรายเท่านั้น
ทำให้เกิดการตั้งคำถามว่า เราจะจัดสาดน้ำกันทั้งเดือนจริงหรือไม่ และทำไปเพื่ออะไร ก่อนจะมีการคลายความสงสัยด้วยการบอกว่า จะจัดสงกรานต์กระจายไปในหลายจังหวัดทั่วประเทศไทย เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวและการใช้จ่ายให้มากขึ้น
แม้มีบางข้อข้องใจที่ถูกไขออกบ้างแล้ว แต่คำถามก็ยังไม่หมดไป เนื่องจากการจัดกิจกรรมสงกรานต์ที่จะชูให้เป็นเฟสติวัลสุดยิ่งใหญ่ของไทยนั้น จะต้องใช้งบประมาณในการดำเนินการอย่างแน่นอน แล้วความคุ้มค่าจะตามมา คุ้มค่าจริงหรือไม่
เพราะกังวลว่างบประมาณที่ถูกใช้ไปจะไม่สอดคล้องกับผลลัพธ์ที่ออกมา เหมือนตัวอย่างในหลายเรื่อง หลายโครงการที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ รวมถึงมองว่างบประมาณที่จะใช้สามารถนำไปใช้อย่างอื่นที่มีประโยชน์ได้มากกว่านี้หรือไม่
ดังนั้น รัฐบาลควรต้องกลับไปทำการบ้านใหม่ให้รัดกุมในทุกแง่มุมมากขึ้น เพื่อเตรียมตอบคำถามหากจะทำออกมาจริงให้ชัดเจนที่สุด จะได้ลบทุกคำสบประมาทและข้อครหาของทั้งประชาชน และฝ่ายต่างๆ
ที่กังวลว่าจะเป็นการตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ ทำสงกรานต์บานตะไทไปไกลเกินกว่าเหตุหรือไม่