ตลาดกังวลศก.จีน-ราคาน้ำมันดิบลด แห่เทขายหุ้นกลุ่ม ปตท. ฉุดดัชนีร่วง 11 จุด คาดสิ้นปีโผล่ไม่พ้นขอบ 1,400 จุด
เมื่อวันที่ 7 ธันวาคม ผู้สื่อข่าวรายงานภาวะการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ (ตลท.) ว่า หุ้นเคลื่อนไหวในแดนลบ โดยเปิดตลาดภาคเช้ามาที่ระดับ 1,389.55 จุด ก่อนปิดตลาดภาคบ่ายที่ระดับ 1,378.73 จุด ปรับลดลง 10.82 จุด หรือ 0.78% โดยดัชนีทำจุดสูงสุดที่ระดับ 1,384.52 จุด และทำจุดต่ำสุดที่ระดับ 1,373.34 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ 41,633.00 ล้านบาท
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดหุ้นไทย ดัชนีหุ้นปรับตัวลดลงอย่างร้อนแรงกว่า 16 จุด ก่อนจะลดช่วงลบลงเหลือปิดตลาดลบเกือบ 11 จุด ถือเป็นการปรับตัวลงที่สอดคล้องกับตลาดอื่นในภูมิภาค โดยสาเหตุมาจากความกังวลเรื่องเศรษฐกิจจีนที่อาจชะลอตัว ส่งผลให้มูดี้ส์ปรับลดแนวโน้มอันดับความน่าเชื่อถือของ จีน ฮ่องกง และมาเก๊า สู่เชิงลบ อีกทั้งราคาน้ำมันดิบที่ปรับตัวลง 4.1% ทำให้มีแรงขายจากหุ้นกลุ่มพลังงาน นำโดย PTTEP และ PTT ออกมาเป็นปัจจัยกดดันต่อดัชนีเพิ่มเติมอีก โดยการปรับลดลงอย่างต่อเนื่องขอวดัชนีหุ้นไทย ทำให้ปิดปลายปี 2566 นี้ คาดว่าไม่น่าถึง 1,400 จุดแล้ว
นางสาววิลาสินี กล่าวว่า ฝ่ายวิจัยคาดดัชนีหุ้นไทยเดือนธันวาคมนี้ มีโอกาสปรับตัวขึ้น Sideway Up โดยมีแรงหนุนจากเม็ดเงินของกองทุนไทยเพื่อความยั่งยืน (Thailand ESG Fund หรือทีอีเอสจี) ประกอบกับโครงการ Easy E-Receipt ของภาครัฐ ขณะที่ราคาน้ำมันดิบดับเบิ้ลยูทีไอที่ปรับตัวลงต่อเนื่อง กดดันหุ้นกลุ่มพลังงาน โดยยังให้คาดการณ์กรอบดัชนีอยู่ที่ระดับ 1,360-1,430 จุด จากเดิมต้นปี 2566 ที่ผ่านมา ทางฝ่ายวิจัยมองกรอบดัชนีตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่ระดับ 1,616-1,845 จุด บนสมมติฐานอัตรากำไรต่อหุ้น (อีพีเอส) ปี 2566 เท่ากับ 108.85 เติบโต 8-9% เมื่อเทียบกับปี 2565 เพราะมองว่า ภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศมีแนวโน้มฟื้นตัวในทิศทางที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ปรับลดระดับความรุนแรงเป็นโรคประจำถิ่น ประกอบกับตัวเลขเงินเฟ้อเริ่มทยอยชะลอตัวเข้าสู่ระดับปกติ แต่ปัจจุบันหลายปัจจัยไม่เป็นไปตามคาดการณ์
นายณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวิเคราะห์การลงทุน บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมา ได้ปรับลดคาดการณ์เป้าหมายดัชนีสูงสุดไว้ที่ระดับ 1,630 จุด แต่หลังจากมีความตึงเครียดด้านภูมิรัฐศาสตร์ปะทุขึ้นอีกครั้ง ดัชนีหุ้นก็เคลือนไหวผันผวนลดลงในกรอบ 1,425- 1,440 จุด และหลุด 1,400 จุดอย่างต่อเนื่อง จึงมองว่าสิ้นปีนี้ ดัชนีน่าจะเคลื่อนไหวบริเวณ 1,400 จุด บวกลบไม่มากอย่างนี้ต่อไป โดยยังคงแนะนำให้ชะลอการการลงทุน แล้วรอดูสถานการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจในช่วงถัดไปก่อน
