เช็กความพร้อม 15 ธ.ค. ดีเดย์ เปิดผับตี4-ดริงก์ได้
นโยบายเปิดสถานบริการ ผับ บาร์ ถึงตี 4 เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว นำร่องกรุงเทพมหานคร, ภูเก็ต, พัทยา ชลบุรี, เชียงใหม่ และเกาะสมุย สุราษฎร์ธานี ของรัฐบาลคิกออฟ 15 ธันวาคมนี้ ได้เช็กความพร้อมผู้ประกอบการและผู้เกี่ยวข้องในแต่พื้นที่ พบว่า รัชชพร พูลสวัสดิ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวเกาะสมุย สะท้อนว่า สิ่งสำคัญมากคือความปลอดภัยนักท่องเที่ยวหน่วยงานความมั่นคงทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ จะต้องเพิ่มการดูแลความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของนักท่องเที่ยว รวมถึงรถโดยสารสาธารณะส่งนักท่องเที่ยวกลับโรงแรมที่พักอย่างปลอดภัย ได้ประชุมวางมาตรการก่อนที่มีการเปิด คาดว่าไม่มีปัญหา หลังเปิดแล้วมาเก็บข้อมูลหาผลกระทบที่ตามมา
ส่วนผลดีด้านเศรษฐกิจจะมีเวลาจับจ่ายใช้สอยได้มากขึ้น นอกเหนือจากสถานบริการที่เปิดแล้ว ผู้ประกอบการรถโดยสารสาธารณะ ร้านอาหาร รถเข็นขายอาหาร มีรายได้เพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยว ระยะกลางระยะยาวเมื่อมีการปรับโซนนิ่งแล้ว แน่นอนว่าจะมีการลงทุนมากยิ่งขึ้น เนื่องจากเป็นพื้นที่นำร่อง มีการช่วยเหลือจากนโยบายรัฐบาลมีการลงทุนด้านความบันเทิงที่มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ก็จะทำให้นักท่องเที่ยวจับจ่ายใช้สอยได้มากยิ่งขึ้น ในราคาที่สูงขึ้น
สำหรับยอดจองห้องพักของเกาะสมุยในช่วงนี้เข้าสู่พีคซีซั่น นักท่องเที่ยวมาจากทั่วทุกมุมโลกกันอย่างคับคั่ง
ผลกระทบสงครามอิสราเอลและฮามาสก็มีบ้าง โรงแรมหลายแห่งแจ้งว่าปลายปีช่วงปีใหม่ได้มีการยกเลิกการจองที่พักของกลุ่มนักท่องเที่ยวอิสราเอลเข้ามาในทุกช่องทางและบริษัททัวร์ต่างๆ โดยให้เหตุผลที่ว่าประเทศเขายังอยู่ในภาวะสงคราม ซึ่งนักท่องเที่ยวอิสราเอลเป็นกลุ่มตลาดที่สำคัญและใหญ่ของเกาะสมุยผู้ประกอบการต้องรีบปรับตัวอย่างโดยเร็ว ต้องหันมารับจองกลุ่มตลาดอื่นๆ เช่น เยอรมนี อังกฤษ รัสเซีย ฝรั่งเศส ออสเตรเลีย
ที่ จ.เชียงใหม่ ธนิต ชุมแสง นายกสมาคมร้านอาหารและสถานบันเทิงเชียงใหม่ เปิดเผยว่า เป็น 1 ใน 5 พื้นที่นำร่องก็จริง แต่หน่วยงานภาครัฐส่วนกลางยังเข้าใจผิด ข้อเท็จจริงสถานบันเทิงที่ได้รับใบอนุญาตสถานบริการ ตามมาตรา 3 คือเปิดถึงตี 4 มีแค่ 27 ร้าน จากทั้งหมด 5,000-6,000 ร้าน และในจำนวน 27 ร้าน เปิดให้บริการจริงไม่ถึง 10 ร้าน จึงไม่มีผลในเชิงช่วยกระตุ้นรายได้จากการท่องเที่ยวมากนัก
ส่วนผลกระทบต่อประชาชนและชุมชน สมาคมไม่ห่วงเพราะกว่า 5,000 ร้านไม่ได้สิทธิเปิดถึงตี 4 เปิดได้แค่ตี 1 เหมือนเดิม ผู้ประกอบการจึงไม่ได้เตรียมอะไร ส่วนใหญ่หลังเวลาตี 2-3 ก็ไม่มีคนเที่ยวอยู่แล้ว บริบทของเมืองแตกต่างจากจังหวัดนำร่องอื่นๆ เช่น พัทยา ภูเก็ต กรุงเทพฯ เพราะเชียงใหม่เป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประเพณี
ธนิตกล่าวถึงการกำหนดให้ต้องตรวจวัดแอลกอฮอล์ลูกค้าก่อนออกจากร้าน จัดสถานที่พักคอย และประสานญาติหรือจัดรถรับ-ส่ง ว่า การปฏิบัติจริงคงลำบาก จากการสอบถามหลายๆ ร้านบอกว่าไม่พร้อมทำ โดยเฉพาะการจัดซื้อเครื่องวัดแอลกอฮอล์ที่มีราคาค่อนข้างสูง เป็นภาระ แล้วยังจัดพนักงานมาตรวจลูกค้า ไม่รู้ว่าลูกค้าจะให้ความร่วมมือหรือไม่
“นักดื่มส่วนใหญ่มักปฏิเสธว่าตัวเองเมา การไปละเมิดสิทธิกักตัวคงทำได้ยาก ส่วนการจัดที่พักคอยรอจนลูกค้าสร่างเมา หรือการต้องร่วมรับผิดชอบหากลูกค้าเมาและขับรถจนเกิดอุบัติเหตุ เป็นมาตรการที่ค่อนข้างแปลกและสร้างภาระผู้ประกอบการมากกว่าช่วยเพิ่มรายได้ ผู้ประกอบการจึงไม่รู้สึกตื่นเต้นหรือคาดหวังว่ารายได้จากการเปิดบริการได้ถึงตี 4 เพราะต้นทุนรายจ่ายก็เพิ่มขึ้นด้วย ทั้งค่าน้ำ ค่าไฟ และการเพิ่มพนักงานเป็น 2 กะ จาก 6 โมงเย็นถึงตี 4” ธนิตกล่าว
ธนิตยังมีมุมมองว่า ไม่อยากให้รัฐบาลใช้พิมพ์เขียวเหมือนกันทั้งประเทศ ต้องดูบริบทแต่ละเมืองประกอบด้วย สำหรับเชียงใหม่ยืนยันว่าเปิดถึงตี 2 เหมาะแล้ว เพราะจากการประชุมร่วมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาปัญหา แนวทางการแก้ไขปัญหาสถานบันเทิง และปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้อง เพื่อป้องกันการเรียกรับผลประโยชน์จากเจ้าหน้าที่รัฐ สภาผู้แทนราษฎร ที่ จ.เชียงใหม่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้ประกอบการแสดงความคิดเห็นว่าหากเปิดถึงตี 4 จะมีผลกระทบมากกว่าช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและท่องเที่ยว เพราะร้านที่เปิดได้จริงมีไม่ถึง 10 ร้าน และส่วนใหญ่กระจัดกระจายอยู่ทั่วทั้งเมือง บางแห่งอยู่ในย่านชุมชน ไม่มีพื้นที่โซนนิ่งเหมือนที่อื่น เช่น วอล์กกิ้งสตรีท พัทยา หรือถนนข้าวสาร กรุงเทพฯ
ขณะที่ ทิพย์ชลิตา ศิริทวีรัตน์ นายกสมาคมโรงแรมหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต กล่าวว่า การเปิดถึง 04.00 น. ตอบโจทย์นักท่องเที่ยวพื้นที่ป่าตอง ส่งผลดีต่อผู้ประกอบการทุกภาคส่วน ไม่เฉพาะธุรกิจบันเทิงอย่างเดียว ธุรกิจที่พัก ร้านอาหาร และอาชีพต่างๆ ที่ต้องอาศัยจับมือร่วมกัน สร้างรายได้ให้กับพื้นที่ ต้องการชัดเจนว่าขยายเวลาถึงตี 4 โซนนิ่งของป่าตอง เท่าที่ทราบมีซอยบางลา ซอยแสนสบาย แต่ในละแวกนั้น บางส่วนอาจจะมีผู้ประกอบการที่เปิดกิจการที่พัก จึงมีความกังวลบ้าง จะผลกระทบกับห้องพักละแวกนั้นหรือไม่ จึงขอให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยมากขึ้น รวมทั้งขอให้เพิ่มกำลังพลด้านความปลอดภัยในพื้นที่ให้มากขึ้น ขอให้มีซีซีทีวีที่มีคุณภาพ จำนวนจุดที่เพียงพอ ถ้าเกิดเหตุแก้ปัญหาได้ทันท่วงที มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความสะอาดเพียงพอ รวมทั้งบริการขนส่งนักท่องเที่ยวต้องบริหารจัดการให้ดีด้วย กังวลความปลอดภัยที่สุด ทั้งการขับรถ ปัญหาทะเลาะวิวาท จึงขอให้เพิ่มจุดตรวจของตำรวจในการดูแลรักษาความปลอดภัย ในส่วนโรงแรม ลูกค้าเข้าพักที่ป่าตองลงไปเที่ยวยังสถานบันเทิงส่วนใหญ่ตี 2-3 กลับมาที่โรงแรม ไม่ส่งผลกระทบกับโรงแรมมากนักเนื่องจากมีบริการเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา 24 ชั่วโมง
ดังนั้น ขอให้ทุกคนช่วยกันเพื่อให้มีรายได้จากนักท่องเที่ยวเข้ามา ถ้าพบเห็นเหตุต่างๆ ต้องช่วยกันแจ้งเบาะแส ทางแอพพลิเคชั่น ทราฟฟี่ฟองดูว์ ของจังหวัดภูเก็ตในการแจ้งเหตุ ผ่านช่องทางนี้ หรือทาง สภ.ป่าตอง มีกลุ่มไลน์ กับผู้ประกอบการเพิ่มเติม ให้ช่วยกันเป็นหูเป็นตาในการแจ้งเหตุต่างๆ ให้กับเจ้าหน้าที่
ปรเมศวร์ งามพิเชษฐ์ นายกเมืองพัทยา กล่าวว่า ที่ผ่านมาเมืองพัทยาได้ประชุมร่วมกันกับตำรวจภูธภาค 2 และผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี นายอำเภอบางละมุง ในการรับนโยบายนายกรัฐมนตรีที่จะเปิดสถานบริการถึงตี 4 จะยึดโซนนิ่งเดิม บริเวณถนนสาย 3 เข้ามา 50 เมตรไปฝั่งทะเล ไปถึงวงเวียนปลาโลมา จนไปถึงวอล์กกิ้งสตรีท พัทยา ที่จะเปิดได้ถึงตี 4 และได้เตรียมความพร้อมจัดนิทรรศการในด้านความปลอดภัยและทรัพย์สินของประชาชน ร่วมกับตำรวจภูธรภาค 2 และจังหวัดชลบุรีให้ความรู้และความเข้าใจรวมไปถึงสร้างความปลอดภัยและการดูแลนักท่องเที่ยว
“เมืองพัทยายังเห็นด้วยกับการเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4 ที่อยู่ในโซนนิ่งเท่านั้น เพราะได้รับเรื่องร้องเรียนการใช้เสียงก่อให้เกิดความรำคาญกับประชาชนที่อาศัยอยู่ใกล้กับสถานบันเทิง จะออกไปตรวจสอบ ส่วนเรื่องเมาแล้วขับ นักท่องเที่ยวทุกคนควรใช้บริการรถสาธารณะ หรือให้เพื่อนที่ไม่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นคนขับรถ ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติจะใช้บริการรถสาธารณะ หรือเดินเที่ยว แต่จะมีนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ขับรถ ตำรวจก็จะมีด่านที่คอยตรวจเพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยว” นายกเมืองพัทยากล่าว
ทั้งหมดคือเสียงสะท้อนจากเจ้าของพื้นที่ถึงนโยบายเปิดสถานบันเทิงถึงตี 4
