ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยเศรษฐกิจไม่ดี คาดปีหน้าดีมานด์ ซัพพลายบ้านมือ2 พุ่ง

ศูนย์ข้อมูลอสังหาฯ เผยเศรษฐกิจไม่ดี คาดปีหน้าดีมานด์ ซัพพลายบ้านมือ2 พุ่ง

เมอื่วันที่ 14 ธันวาคม นายอลงกต บุญมาสุข เลขาธิการและประธานกรรมการบริหารสมาคมสินเชื่อที่อยู่อาศัย  เปิดเผยว่า ผลการจัดงาน  มหกรรมสินเชื่อบ้านและบ้านมือสองแห่งปี 2023 ครั้งที่ 20 เมื่อวันที่ 17-19 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา มียอดขายทรัพย์มือสองรวมภายในงานกว่า 1,176 ล้านบาท คาดปิดยอดต่อเนื่องจนถึงปลายปีอีกกว่า 500 ล้านบาทแสดงให้เห็นว่าตอบโจทย์ผู้ต้องการทรัพย์มือสองทั้งเพื่อการอยู่อาศัยและลงทุน ด้วยราคาที่ถูกกว่าบ้านสร้างใหม่ พร้อมด้วยโปรโมชั่นดีๆ ที่ธนาคาร สถาบันการเงิน และบริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ร่วมงานนำเสนอให้กับผู้ที่สนใจ รวมทั้งมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ของภาครัฐที่สนับสนุนการซื้ออสังหาริมทรัพย์มือสองในราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยการลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 1% และค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% จนถึงสิ้นปี 2566 มีส่วนช่วยให้ได้ผู้ซื้อตัดสินใจง่ายขึ้น

นายวิชัย วิรัตกพันธ์ รักษาการผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ ธนาคารอาคารสงเคราะห์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของการจัดงาน มหกรรมสินเชื่อบ้านและบ้านมือสองแห่งปี  2023ครั้งที่ 20 สะท้อนถึงความต้องการอสังหาริมทรัพย์มือสองยังคงขยายตัวได้ดี สอดคล้องข้อมูลของศูนย์ข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ที่พบว่าสัดส่วนจำนวนหน่วยโอนกรรมสิทธิ์ที่เป็นการโอนจากต้นทางที่เป็นบุคคลธรรมดาทั่วประเทศมีสัดส่วน 60% ของหน่วยโอนทั่วประเทศประมาณ 240,000 หน่วย มูลค่า 300,000 ล้านบาท คาดว่าอยู่ในกรุงเทพฯและปริมณฑล 100,000 หน่วย มูลค่า 200,000 ล้านบาท เป็นผลจากมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ และราคาบ้านใหม่ที่แพงขึ้นทำให้คนหาซื้อบ้านมือสองเป็นสินค้าทดแทน

นายวิชัยกล่าว โดยผู้บริโภคให้ความสนใจคอนโดมิเนียมมากที่สุด36.7%  ในทำเลเขตจตุจักร บริเวณ MRT สถานีลาดพร้าว  และสายสีเหลือง  เป็นคอนโดมิเนียม 1 ห้องนอน  ขนาด 31-50 ตารางเมตร  ราคา 3-5 ล้านบาท รองลงมาบ้านเดี่ยว 35.6% ในเขตสายไหม คลองสามวา และบางขุนเทียน  ส่วนใหญ่ต้องการบ้านเดี่ยว 50-60 ตารางวา 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ราคา 3-5 ล้านบาท ส่วนทาวน์เฮ้าส์อยู่ที่ 27.7% ทำเลเขตสายไหม  ประเวศ และคลองสามวา  เป็นทาวน์โฮม 16-25 ตารางวา   2 ชั้น    3 ห้องนอน  2 ห้องน้ำ  ราคาไม่เกิน 3 ล้านบาท

Advertisement

นายวิชัยกล่าวว่า สำหรับทิศทางการเติบโตของทรัพย์มือสองในประเทศไทยในปี 2567 มีแนวโน้มเติบโตทั้งทางฝั่ง ดีมานด์และซัพพลายจากสภาวะเศรษฐกิจที่ทำให้ทางสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์จะมีทรัพย์มือสองเพิ่มปริมาณเข้ามาอย่างต่อเนื่องเป็นจำนวนมาก และในฝั่งของผู้บริโภคจากอัตราดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ต้นทุนในการก่อสร้างบ้านใหม่สูงขึ้น ทำให้ความสามารถในการซื้อที่อยู่อาศัยในทำเลที่ต้องการลดลง ทรัพย์มือสองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด รอการสนับสนุนมาตราการต่างๆของรัฐบาลเพื่อจะเข้ามาช่วยกระตุ้นให้เติบโตเร็วขึ้นในปีหน้า

QR Code
เกาะติดทุกสถานการณ์จาก Line@matichon ได้ที่นี่
Line Image