AREA สำรวจพ.ย.เดือนเดียวอสังหาเปิดใหม่ทะลัก 7.2 หมื่นล้าน คอนโดต่ำ 5 ล้านมากสุด

AREA สำรวจพ.ย.เดือนเดียวอสังหาเปิดใหม่ทะลัก 7.2 หมื่นล้าน คอนโดต่ำ 5 ล้านมากสุด

เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม นายโสภณ พรโชคชัย ประธาน ศูนย์ข้อมูลวิจัยและประเมินค่าอสังหาริมทรัพย์ไทย บริษัท เอเจนซี่ ฟอร์ เรียลเอสเตท แอฟแฟร์ส จำกัด (AREA) เปิดเผยว่า จากผลสำรวจจำนวนหน่วยขายเดือนพฤศจิกายน 2566 ในกรุงเทพฯและปริมณฑล พบว่าในเดือนเดียว มีเปิดโครงการใหม่ 60 โครงการมากสุดในรอบปีนี้ แต่หน่วยขายที่เปิดใหม่จำนวน 12,432 หน่วย และมูลค่าโครงการยังน้อยกว่าเดือนตุลาคมที่ผ่านม โดยจำนวนหน่วยลดลง 3.8% เพราะเดือนพฤศจิกายนมีเปิดตัวโครงการบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดเพิ่มขึ้น อีกทั้งจำนวนหน่วยขาย ส่วนใหญ่ 79% ยังคงเป็นการพัฒนาโดยผู้ประกอบการรายใหญ่ในตลาดหลักทรัพย์และบริษัทในเครือ ซึ่งพัฒนาบ้านเดี่ยวและบ้านแฝดระดับปานกลางค่อนข้างสูง จึงทำให้จำนวนหน่วยขายลดลงเล็กน้อย

นายโสภณกล่าวว่า สำหรับหน่วยเปิดขายใหม่มากสุดยังคงเป็นอาคารชุด จำนวน 6,151 หน่วย หรือ 49.5% รองลงมาบ้านเดี่ยวจำนวน 2,987 หน่วย หรือ 24% ทาวน์เฮ้าส์จำนวน 1,662 หน่วย หรือ 13.4% ของจำนวนหน่วยขายที่เปิดขายใหม่ทั้งหมด ทั้งนี้เมื่อเปรียบเทียบจำนวนหน่วยขายของที่อยู่อาศัยหลัก ได้แก่ บ้านเดี่ยว ทาวน์เฮ้าส์ และอาคารชุด กับเดือนตุลาคมที่ผ่านมาพบว่า บ้านเดี่ยวหน่วยขายเพิ่มขึ้น 622 หน่วย หรือ 26.3%  ส่วนทาวน์เฮ้าส์ลดลง จำนวน 167 หน่วย หรือ 9.1% และอาคารชุดลดลงจำนวน 1,595 หน่วย หรือ20.6%

นายโสภณกล่าวว่า ส่วนมูลค่าการพัฒนาโครงการรวมอยู่ที่ 72,225 ล้านบาท ลดลง 7.3% เพราะส่วนใหญ่มีการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมระดับราคาไม่เกิน 5 ล้านบาทออกสู่ตลาด โดยมีหน่วยขายรวมมากถึง 61.8% รองลงมาราคา 5-10 ล้านบาท มีจำนวนหน่วยขาย 26.8% และตั้งแต่ 10 ล้านบาทนขึ้นไป มีจำนวนหน่วยขาย 11.4% โดยกลุ่มนี้เป็นสินค้าประเภทบ้านเดี่ยวและอาคารชุดราคาแพง เมื่อพิจารณาราคาขายเฉลี่ยต่อหน่วยของเดือนพฤสจิกายนมีราคาเฉลี่ย 6.051 ล้านบาทต่อหน่วย ลดลงจากเดือนตุลาคม 3.6%

นายโสภณกล่าวว่า สำหรับอัตราการขายได้ต่อเดือนพบว่าในเดือนแรกของการเปิดขายมีอัตราการขายได้เฉลี่ย 20.2% เพิ่มขึ้นจากเดือนตุลาคมที่มีอัตราการขายได้ 14.4% ต่อเดือน โดย 3 อันดับแรกมีอัตราการขายได้สูงสุดเป็นอาคารชุดทั้งหมด ทั้งราคา 5-10 ล้านบาท  ขายได้ 73.9% ราคา 10-20 ล้านบาท ขายได้ 66.9% และราคา 3-5 ล้านบาท ขายได้ 30.8% ซึ่งทำเลที่มีอาคารชุดเปิดขายใหม่อยู่ในพื้นที่ชั้นใน ชั้นกลาง และส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายใหม่ เช่น สายสีชมพู สายสีเหลือง และสายสีน้ำเงิน ส่วนที่อยู่อาศัยแนวราบอยู่ในเขตพื้นที่ส่วนต่อขยายเมือง เช่น บางใหญ่ บางบัวทอง ลำลูกกา วัชรพล บางนา เทพารักษ์ ประชาอุทิศ พระราม 2 สมุทรสาคร ศาลายา และราชพฤกษ์ เป็นต้น

ADVERTISMENT