ภูมิธรรม เคาะ 6 มาตรการ 25 แผนงาน จัดการผลไม้ปี67 เป้าดูดซับ 9 แสนตัน
วันที่ 27 ธันวาคม เวลา 17.00 น. ที่กระทรวงพาณิชย์ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวภายหลังเป็นประธานการประชุม แนวทางมาตรการบริหารจัดการผลไม้ ปี 2567 ร่วมกับผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐและเอกชน สมาคมผลไม้ ผู้ประกอบการแปรรูป ผู้ประกอบการโลจิสติกส์ ห้างค้าปลีก-ค้าส่ง สถานีบริการน้ำมันเชื้อเพลิง แพลตฟอร์ม โลจิสติกส์ สถาบันการเงิน สายการบินและผู้แทนเกษตรกร ว่า กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จับมือกันแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชน ในฤดูกาลที่ผลไม้ออกมาก มักมีปัญหา จึงดำเนินการจัดการผลไม้ล่วงหน้า ให้เอกชนเป็นทัพหน้าหาเงินเข้าประเทศ รัฐจะพยายามผลักดันให้เป็นตามมาตรฐานสากลของโลกการค้าใหม่ ให้เอกชนเดินหน้า สร้างเงินเข้าประเทศเต็มที่ เชื่อว่ามาตรการเชิงรุกในปี 2567 ทุกภาคส่วนจะร่วมมือกันรองรับปัญหาที่จะเกิดขึ้นได้อย่างสมบูรณ์ที่สุด
“โดยออกมาตรการ 6 ด้าน 25 แผนงาน เป้าหมาย 900,000 ตัน ซึ่งปี 2567 คาดว่าจะมีปริมาณผลผลิตออกสู่ตลาดเกือบ 7 ล้านตัน เพิ่มขึ้น 3% จากปี 2566 จะทยอยออกตั้งแต่ต้นปี แต่ผลผลิตจะออกสู่ตลาดมาก ในช่วงเดือนเมษายนถึงสิงหาคม ประมาณ 5 ล้านตัน หรือคิดเป็น 71% ของผลผลิตรวมทั้งปี ”
นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า 6 มาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 67 เป้าหมาย 900,000 ตัน ประกอบด้วย มาตราการแรก การส่งเสริมการผลิต-แปรรูป 2 แผนงาน คือ การเร่งรัดตรวจรับรองแปลง GAP 120,000 แปลง และการส่งเสริมการแปรรูป ทุเรียน ลำไย มะม่วง(Blast Freezing/Deep Freezing/Hyper Rapid Freezing) 320,000 ตัน มาตรการ2.การส่งเสริมตลาดในประเทศ 7 แผนงาน ได้แก่ จัดทำเกษตรพันธสัญญา 100,000 ตัน การกระจายออกนอกแหล่งผลิต 90,000 ตัน โดยผู้รวบรวมซื้อผลไม้กระจายออกนอกแหล่งผลิตซึ่งรัฐจะช่วยค่าบริหารจัดการ 3 บาท/กก. การเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการผลไม้ตามมาตรฐานการค้าระหว่างประเทศ 150,000 ตัน โดยผู้ประกอบการรับซื้อ คัดแยก และบริหารจัดการคุณภาพผลไม้ตามมาตรฐานการค้าระหว่างประเทศ ช่วยค่าบริหารจัดการ 4 บาท/กก. การจัดรณรงค์บริโภคผลไม้ (ขยายช่องทางการค้าใหม่ด้วย KOL Social Media/ จัด พาณิชย์ Fruit Festival 2024) 100,000 ตัน การสนับสนุนกล่องไปรษณีย์ (300,000 กล่อง) 3,000 ตัน โดยไปรษณีย์ไทยจัดส่งให้ฟรี การโหลดผลไม้ขึ้นเครื่องฟรี 20 กก. 100 ตัน ผ่าน 4 สายการบิน Air Asia, Thai smile, Nok Air และ Thai Lion Air) และการเสริมสภาพคล่องการบริหารจัดการผลไม้ วงเงินกู้ 3,340 ล้านบาท โดยช่วยดอกเบี้ยผู้ประกอบการในการรับซื้อผลไม้ 3% ต่อปีไม่เกิน 6 เดือน
มาตรการ3. ส่งเสริมตลาดต่างประเทศ 6 แผนงาน ได้แก่ จัดมหกรรมการค้าชายแดน 3 ภาค จำหน่ายผลไม้ไทยไปยังประเทศเพื่อนบ้าน จัดจับคู่เจรจาธุรกิจ Business Matching 650 ล้านบาท ทั้ง Onsite และ Online จัดส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ Trade Promotion 340 ล้านบาท เข้าร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ 7 งาน การส่งเสริมเมนูผลไม้ไทยตามฤดูกาล ผ่านร้านอาหาร Thai Select ทั่วโลก ทำเมนูของหวานจากผลไม้ไทยตามฤดูกาล และจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าเกษตรเยือนต่างประเทศ 65 ล้านบาท
มาตรการ 4. เพิ่มประสิทธิภาพทางการค้า 5 แผนงาน ได้แก่ คณะทำงานผลักดันการส่งออกผลไม้ไทย เอกชนเป็นทัพหน้า รัฐสนับสนุน การผลักดันการใช้ประโยชน์ทางการค้าจาก FTA ส่งเสริมการส่งออกสินค้าที่ได้รับโควตาตาม FTA เน้นสื่อประชาสัมพันธ์ผลไม้ไทย ในตลาดจีนและตลาดศักยภาพ การเจรจาผ่อนคลายมาตรการทางการค้าระหว่างประเทศ ลดภาษีและอุปสรรคทางการค้า
และจัดอบรมการตลาด เพื่อการค้าในประเทศและส่งออก
มาตรการ5.อำนวยความสะดวกการค้า 3 แผนงาน ได้แก่ ผ่อนปรนเคลื่อนย้ายแรงงาน ในกรณีที่จำเป็น สนับสนุนการคัดแยก-ขนย้าย ในกรณีจำเป็น ทีมเซลล์แมนจังหวัด-ประเทศ เชื่อมโยงผลผลิต
มาตรการ 6. ใช้กฎหมาย 2 แผนงาน คือ กำชับปิดป้ายแสดงราคารับซื้อเวลา 8.00 น. หรือทันทีที่เปิดรับซื้อ และรับซื้อตามราคาที่ปิดป้าย และการป้องปรามและปราบปราม ด้วย พ.ร.บ.ว่าด้วยราคาฯ พ.ร.บ.ชั่งตวงวัด พ.ร.บ.แข่งขันทางการค้า พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค และกฎหมายอาญา
” ผลไม้ไทยโด่งดังมาก มาประเทศไทยกินผลไม้ได้ทุกฤดูกาล เป็นที่เลื่องลือที่ต่างประเทศ ผมยืนยันว่ารัฐบาลนี้ผสมหลายพรรคแต่ผ่านวิกฤติมาด้วยกัน กว่าจะเป็นรัฐบาลนี้ยากลำบาก เรารู้ว่าประเทศกำลังมีปัญหา 10 ปีมานี้สร้างปัญหามากมาย รัฐบาลนี้ถึงแม้ต่างพรรคแต่ก็สามารถผสมผสานและแก้ไขปัญหาได้ เราจะทำให้ดีที่สุดและคลี่คลายปัญหาต่างๆให้อย่างเต็มที่ ตนเชื่อว่าปีหน้าปัญหาผลไม้ไทยน่าจะลดลงกว่าเดิมเยอะ” นายภูมิธรรม กล่าว